'เศรษฐา' เผยความคืบหน้าช่วยแรงงานไทยกลับจากอิสราเอล ประสานฝ่ายความมั่นคง-อนุทินช่วยกระจายข่าวแล้ว หวั่นหากสถานการณ์สู้รบขยายวงไปสู่ภาคพื้นดินจะยิ่งกลับลำบากขึ้น-ติงอิสราเอลเปิดคลิปแรงงานไทยถูกทำร้ายกลางเวที UN ไม่เหมาะสม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อเวลา 12.00 น.ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 ตำบลบ้านจั่น อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าช่วยเหลือแรงงานไทยกลับ ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นายกรัฐมนตรีก็นอนไม่หลับ สงครามควรจะให้จำกัดอยู่ในพื้นที่ แต่ตอนนี้ความอันตรายเริ่มจะขยายไปในภาคพื้นไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะมีแรงงานไทยอยู่ในพื้นที่เยอะ ตนประสานฝ่ายความมั่นคงและนายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.มหาดไทย ก็เป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะแรงงานของจังหวัดอุดรธานีก็ทำงานอยู่ในพื้นที่สู้รบเยอะหน่วยงานในจังหวัด และสส.ก็ต้องช่วยกันกระจายบอกกล่าวหากจะเดินทางกลับมาพร้อมกัน เพราะเรามีขีดจำกัด ซึ่งตอนนี้รับคนกลับมาได้มากสุด 1,000คนแล้ว หากเกิดสงครามภาคพื้นดินถนนจะถูกตัดขาดการจะเดินทางจะยิ่งลำบากมากขึ้น
นายกฯ กล่าวต่อว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.)ยังอยู่ที่มาเลเซียและจะมีหนึ่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.)เตรียมจะบินไปประเทศแถบตะวันออกกลางในเร็วๆนี้ เพื่อหารือการช่วยเหลือตัวประกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตลอด2วันที่ผ่านมามีความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก อยากให้แรงงานไทยรีบกลับมาเถอะ กลับมาบ้านเราดีกว่า
เมื่อถามว่ายอด 8,000 กว่าคน ที่แจ้งกลับมามีการเปลี่ยนใจหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็มีนิดหน่อย ลำหนึ่งมีประมาณ 5- 6% ที่ยังเปลี่ยนใจ แต่ก็หวังว่าจะมีคนเดินทางกลับมาเพิ่มมากขึ้น เราจะได้เพิ่มเที่ยวบินให้มากขึ้นทางฝ่ายความมั่นคงและกลาโหมให้ความสำคัญกับ การลำเลียงคน
แต่มีปัญหาเรื่องของการเดินทางอยู่เหมือนกันจึงต้องขอให้รีบแจ้งว่าจะเดินทางกลับและในวัน ที่ 31 ต.ค.นี้รัฐบาลจะออกมาตรการเสริมสำหรับแรงงาน ทั้งการออกมาตรการเงินกู้ระยะต่ำและระยะยาวเพื่อให้ไปใช้หนี้ โดยรมว.แรงงานได้รวบรวมข้อเสนอมาแล้วและจะนำเสนอในที่ประชุมครม.วันที่ 31 ต.ค.นี้
เมื่อถามต่อว่าฝ่ายความมั่นคง มีการประเมินหรือไม่ว่าหากสถานการณ์เร็วร้ายที่สุดและไม่สามารถนำเครื่องบินขึ้นบินได้ นายกฯ กล่าวว่า ไม่อยากให้คิดหรือประเมินถึงขั้นนั้น หากบินไม่ได้ ต้องอาศัยทางบก หากทางบกก็มีปฏิบัติการภาคพื้นก็เดินทางลำบาก มีความเสี่ยงก็มีอีกความโหดร้ายของสงครามแต่ละฝ่ายก็ไม่ยอมยึดกติกาในการทำสงครามผู้เสียหายผู้บริสุทธิ์ก็จะเป็นเหยื่อตรงนี้ ทั้งนี้ ตนได้ย้ำไปตั้งแต่วันแรกที่มีการสู้รบว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งและไม่อยากให้มีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำงานอย่างหนักที่จะจะต้องนำคนไทยกลับมาให้โดยเร็วที่สุด
เมื่อถามอีกถึงกรณีที่อิสราเอลเปิดคลิปแรงงานไทยถูกทำร้ายในเวทียูเอ็น นายกฯ กล่าวว่า กำลังให้ตรวจสอบอยู่ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร
แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะมาเปิดเผยเป็นอะไรที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แค่นี้สงครามก็โหดร้ายพอแล้ว อย่าไปเติมน้ำมันเข้าไปในไฟ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลางไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งต้องการเพียงแค่ให้คนของเราปลอดภัยและตัวประกันออกมาเร็วที่สุด
เมื่อถามว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้กองทัพอากาศเพิ่มเที่ยวบินไปรับคนไทยให้ถี่ขึ้น นายกฯ กล่าวว่า ก็พยายามโดยเร็วที่สุด หากสงครามรุนแรงขึ้นก็มีขีดจำกัด เรื่องของการขึ้นลงของเครื่องบิน แต่ก็ต้องดูจำนวนคนที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับ หากเพิ่มเที่ยวบินไปแล้วคนเดินทางกลับมาน้อยก็จะไม่คุ้ม ขณะเดียวกันก็มีความเป็นห่วงเจ้าหน้าที่ไทยที่ปฏิบัติงานอยู่ที่อิสราเอลแต่มี หลายคนที่สมัครใจที่จะไปปฎิบัติภารกิจช่วยเหลือเอาคนไทยกลับ บุคลากรที่เสนอตัวไปไม่มีขีดจำกัดทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีปัญหา
เมื่อถามอีกว่าการช่วยเหลือตัวประกันจะยากขึ้นหรือไม่เพราะทางอิสราเอลจะปฎิบัติการภาคพื้นดิน นายกฯกล่าวว่า ไม่อยากอย่างนั้น ตอนไม่มีข้อมูลก็ไม่อยากจะตอบ แต่เชื่อว่าทุกฝ่ายพยายามอย่างเต็มที่