เจ้าชายซาอุฯ เผยคนบริสุทธิ์กำลังต้องจ่ายด้วยชีวิต จากเหตุโจมตีกาซ่า ยันหนุนหลักการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ ขณะผู้นำชาติอาเซียนออกแถลงการณ์ร่วม เปิดส่งเสบียงช่วยผู้ปิดล้อม ย้ำต้องปล่อยนักโทษพลเรือนทันที
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวสถานการณ์ตัวประกันที่ถูกจับกุมตัวไประหว่างการสู้รบกับกลุ่มฮามาสและกองทัพอิสราเอลว่า
เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดิอาระเบีย ได้เป็นประธานเปิดประชุมระหว่างกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับหรือ GCC กับประเทศนภูมิภาคเอเชีย โดยในระหว่างเปิดงานพระองค์ได้ทรงตรัสว่าชีวิตของคนบริสุทธิ์กำลังกลายเป็นราคาที่ต้องจ่าย จากสงครามฮามาส-อิสราเอล
การประชุมสุดยอดระหว่างสมาชิก GCC และสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จัดขึ้นที่กรุงริยาดเมื่อวันที่ 20 ต.ค. โดยผู้นําเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่
เหล่าบรรดาผู้นำที่เข้าร่วมประชุมต่างประณามการโจมตีฉนวนกาซาและเรียกร้องให้เข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและสิ่งของบรรเทาทุกข์ ตลอดจนการฟื้นฟูไฟฟ้าและน้ำในพื้นที่ดังกล่าว รวมไปถึงเรียกร้องให้มีการส่งมอบเชื้อเพลิงและยาเป็นจำนวนไม่จำกัดไปยังพื้นที่ซึ่งถูกปิดล้อม
มกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบียตรัสต่อไปว่ามันเป็นเรื่องเจ็บปวดเมื่อพวกเราได้เห็นความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นที่ฉนวนกาซาในวันนี้ซึ่งเป็นราคาที่พลเรือนผู้บริสุทธิ์ต้องจ่าย
กลุ่มผู้นํายังได้เรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยการคุ้มครองพลเรือนในช่วงสงคราม ตลอดจนสนับสนุนโครงการสันติภาพที่จัดทําโดยซาอุดีอาระเบีย สหภาพยุโรป และสันนิบาตอาหรับ
โดยประเทศสมาชิก GCC ได้เน้นย้ำถึงความสําคัญของการฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางโดยประสานงานกับความพยายามของจอร์แดนและอียิปต์
เจ้าชายโมฮัมเหม็ดตรัสต่อไปว่า "ต้องสร้างเงื่อนไขเพื่อคืนเสถียรภาพ บรรลุทางออกที่ยุติธรรม จัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ตามแนวชายแดนปี ค.ศ. 1967 และหยุดปฏิบัติการทางทหารต่อพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน
“เรายืนยันการปฏิเสธอย่างเด็ดขาดในการกําหนดเป้าหมายพลเรือนในทางใดทางหนึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆก็ตาม และขอยืนยันถึงความจําเป็นในการหยุดปฏิบัติการทางทหารและสร้างเงื่อนไขเพื่อให้บรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนเพื่อรับประกันการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์” เจ้าชายโมฮัมเหม็ดตรัส
สำหรับการประชุมดังกล่าวนี้ ในส่วนของประเทศอาเซียนที่เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยประเทศสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา ลาว พม่า และไทย ส่วนประเทศในกลุ่ม GCC ที่เข้าร่วมประกอบไปด้วยซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน โอมาน กาตาร์ คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
โดยแถลงการณ์ร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียนเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันและผู้ถูกคุมขังพลเรือนโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข โดยเฉพาะผู้หญิง เด็ก คนป่วย และผู้สูงอายุ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทํางานเพื่อหาทางออกอย่างสันติต่อความขัดแย้ง