เศรษฐาเผยเจ้าชายซาอุ-กษัติรย์บรูไน-กษัตริย์โอมานเข้าใจความสูญเสียคนไทย ห่วงใยสถานนภาพตัวประกัน รับปากช่วยพูดคุยผู้นำ ขณะกษัตริย์โอมานเตรียมประชุมที่ไคโรถกวิกฤตสงครามฮามาส-อิสราเอล
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวการติดตามตัวประกันชาวไทยที่ถูกจับกุมไปในสงครามระหว่างกลุ่มฮามาสและกองทัพอิสราเอลว่าเมื่อวันที่ 20 ต.ค. เมื่อเวลา 13.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) ที่ซาอุดีอาระเบีย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล ว่า ในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ผู้นำหลายๆ ชาติได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เราทุกคนไม่อยากให้เกิด คือ สถานการณ์ความรุนแรงระหว่างฮามาสกับอิสราเอล มีการเรียกร้องขอให้ปล่อยตัวประกันออกมาโดยเร็ว เพราะเป็นบุคคลที่บริสุทธิ์ ต้องการให้ยุติสถานการณ์โดยเร็วด้วยการเจรจาด้วยความสันติ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงการรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันของผู้นำ ตนได้นั่งข้างกับกษัตริย์โอมาน ที่มีความคุ้นเคยกับประเทศไทยดีมาก ซึ่งประเทศไทย โดย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ลงทุนสูงที่สุดบริษัทหนึ่งในโอมาน การลงทุนในด้านการท่องเที่ยวก็มีมาก สายการบินที่บินสัปดาห์ละ 3-4 วัน ไปประเทศไทย ตนเองบอกว่า อยากให้นักท่องเที่ยวโอมานไปประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งกษัตริย์โอมานก็ตอบรับ เพราะครอบครัวของท่านก็เป็นคนไข้อยู่ที่โรงพยาบาลในประเทศไทย ชื่นชมการรักษาพยาบาลของประเทศไทย พร้อมหารือกันถึงปัญหาอิสราเอล ซึ่งตนได้แจ้งว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นคู่กรณี แต่สูญเสียมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ ทั้งนี้ หลังจากเสร็จการประชุมครั้งนี้ ท่านจะรีบเสด็จฯ ไปไคโรเพื่อเข้าร่วมประชุมใหญ่ และจะมีบรรดาผู้นำบินตามไปสมทบซึ่งจะพูดคุยกันเรื่องความไม่สงบในกาซาและอิสราเอล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังการรับประทานอาหาร ได้พบกับมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีของซาอุดีอาระเบียอีกครั้ง และท่านตระหนักดีถึงความสูญเสียของคนไทยทั้ง 30 คน และตัวประกันอีก 17 คน ทั้งนี้ ได้พูดคุยกับสมเด็จพระราชาธิบดีของบรูไน ได้แสดงความเป็นห่วงประเทศไทยและตัวประกัน ซึ่งตัวท่านเองก็พยายามพูดคุยกับบรรดาผู้นำต่างๆ เพราะท่านมีความคุ้นเคยและท่านรักประเทศไทย ทุกท่านแสดงความห่วงใยตัวประกัน และแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียของไทย