'เศรษฐา' ย้ำตัวเลขคนไทยเสียชีวิตจากเหตุสู้รบอิสราเอลแล้ว 2 ราย ย้ำพร้อมอพยพคนไทยกลับได้ทันที 1 เที่ยวบิน 423 คน ด้านภูมิธรรมเผยอาจมีคนไทยเสียชีวิตถึงสิบราย แต่ต้องรอข้อมูลยืนยันจากอิสราเอล ย้ำนักเรียนไทยในอิสราเอลตอนนี้ปลอดภัยทุกคน เผยตอนนี้ ทอ.มีเครื่องบิน 6 ลำ พร้อมเดินทางทันที
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวความเคลื่อนไหวรัฐบาลไทยที่ดำเนินการช่วยเหลือคนไทยซึ่งยังติดอยู่ที่ประเทศอิสราเอลในช่วงเวลาที่มีการสู้รบกันระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสว่าเมื่อเวลา 13.12 น. เมื่อวันที่ 8 ต.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่าน X ในชื่อว่า @Thavisin โดยมีข้อความระบุว่าทันทีที่ถึงฮ่องกง เวลา 12.50 น. ของที่นี่ผมก็ได้รับรายงานเพิ่มเติมจากนางสาวพรรณภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่ามีคนไทยเสียชีวิต 2 คน จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ผมกำกับชัดเจนให้รายงานตลอด 24 ชั่วโมงทางเบอร์ส่วนตัวของผมโดยตรง
ตอนนี้รอแค่ให้สถานการณ์อำนวยให้สามารถบินได้ ทางกระทรวงการต่างประเทศและกองทัพอากาศทำงานประสานกันอยู่ หากสามารถอพยพคนไทยได้เมื่อใดเราพร้อมทันที 1 เที่ยวบินกลับได้ 423 คน ทั้งนี้ ผมให้ความสำคัญมากกับคนไทยที่พำนักอยู่ที่ต่างประเทศ ทางท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ยกเลิกภารกิจอื่น ๆ เพื่อดูแลประสานงานในเรื่องนี้ทั้งหมดแล้ว
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้แถลงความคืบหน้าหลังจากการประชุมศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center) นานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง
โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า เราได้ติดตามสถานการณ์ด้วยความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย ที่อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ จึงได้มีการหารือกันเพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือคนไทยในประเทศอิสราเอลทั้งหมด เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวมีความรุนแรงถึงขั้นประกาศเป็นสงคราม ประเทศไทยและรัฐบาลไทยเราอยู่ในจุดยืนสำคัญ คือ เราเป็นกลางในสถานการณ์ความขัดแย้งนี้ และยอมรับการดำรงอยู่ของทั้ง 2 รัฐ ทั้งปาเลสไตน์และอิสราเอล เราอยากเห็นทาง 2 ประเทศจบความขัดแย้งด้วยสันติวิธี ด้วยกันร่วมมือกันการเจรจาสันติภาพ
ทั้งนี้ แรงงานไทยที่อยู่ในประเทศอิสราเอลมีถึง 3 หมื่นคน โดยอยู่ใกล้กับฉนวนกาซาที่เกิดความรุนแรง ประมาณ 5,000 คน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยยังคงเป็นศูนย์กลางในการประสานงาน แต่วันนี้เรายังออกไปไหนไม่ได้ จากการที่รัฐบาลอิสราเอลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ทุกคนอยู่แต่ในบ้าน แต่เราก็ได้เตรียมการประสานงานกับภาคส่วนต่างๆ ล่วงหน้าไว้แล้ว เราซ้อมแผนฉุกเฉิน เพราะเชื่อว่าสถานการณ์ฉุกเฉินจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
นายภูมิธรรม ยังกล่าวต่อด้วยว่า ระหว่างการประชุม ได้มีการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองทัพบก กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม สภาความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่ง ขณะนี้ ทราบว่ามีผู้เสียชีวิต อย่างเป็นทางการ 2 ท่าน แต่ก็มีกระแสข่าวได้รับรายงานจากนายจ้าง ว่า น่าจะมีมากถึง 10 ราย แต่ต้องรอการยืนยันจากทางการอิสราเอลอีกครั้ง ส่วนตัวเลขของผู้ที่ถูกจับไปเป็นตัวประกันอย่างเป็นทางการตอนนี้คือ 11 ราย ขณะที่ยอดของผู้บาดเจ็บตอนนี้มีทั้งหมด 8 คน ในมี 2 คน ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนอีก 6 คนบาดเจ็บเล็กน้อย
นายภูมิธรรม ยังกล่าวต่อด้วยว่า ตอนนี้กองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบิน 6 ลำ ประกอบด้วย A340 1 ลำ และ C130 5 ลำ พร้อมเดินทางได้ทันที แต่ตอนนี้รอข้อมูลก่อน โดยให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้รวบรวมรายชื่อของคนไทยทุกคนที่อยู่ในอิสราเอล
ขณะเดียวกัน ก็ให้กระทรวงการต่างประเทศ แสวงหามิตรประเทศที่รอบข้างอิสราเอล เพื่ออพยพคนไทยไปอยู่ในเขตที่ปลอดภัยก่อน ที่จะอพยพกลับมาประเทศไทย เนื่องจากคนไทยมีมากถึง 30,000 คน จะอพยพทีเดียวคงเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ฉนวนกาซาที่มีคนไทยมากถึง 5,000 คน ขออย่าเป็นกังวล
พร้อมย้ำว่า ตอนนี้ไม่ต้องรอให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เราพร้อมดำเนินการทันที แต่ปัญหาตอนนี้คือเป็นเรื่องของการสื่อสาร ที่ติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง มีบางส่วนที่ยังติดต่อไม่ได้ จะเร่งดำเนินการติดต่อให้ได้โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า ใครประสานที่จะเดินทางกลับประเทศไทยบ้าง
แต่เราประเมินไว้ว่าหากสถานการณ์เลวร้าย เราก็พร้อมรับมือ หากได้รับสัญญาณเราพร้อมปฏิบัติการทันที เราได้วางจุดประสานงานไว้พอสมควรแล้ว ต้องรอให้สถานการณ์คลี่คลายอีกนิดนึง
เมื่อถามว่า ทางศูนย์ประเมินสถานการณ์จะเข้าไปช่วยคนไทยได้ช่วงไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังสับสน เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่ากระทันหัน เร่งด่วน โดยที่ไม่มีการประเมินและทราบมาก่อน ตอนนี้สิ่งที่จะหลีกเลี่ยงการสูญเสียได้มากที่สุด คือการเตรียมความพร้อม ขณะนี้คนไทยยังไม่มีอะไรที่น่ากังวลใจ ยกเว้นคนที่อยู่ในเหตุการณ์
นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึง รูปแบบการปฏิบัติการคือ ให้สถานทูตที่อิสราเอล ดำเนินการรวบรวมข้อมูลเป็นศูนย์กลางที่เดียว แล้วค่อยประสานมายังกันทางการไทย เพื่อความเป็นเอกภาพ
เมื่อถามว่า ครอบครัวที่ประเทศไทยเริ่มมีความกังวลมากขึ้น จะดำเนินการอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้ให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงไปดูแลจิตใจ รายละเอียดในการช่วยเหลือ ซึ่งมองว่าสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการเยียวยาจิตใจ และพยายามให้เห็นว่ารัฐไทยไม่ทอดทิ้งแน่นอน พร้อมย้ำกับพี่น้องในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือที่ไปทำงานที่นั่นเรายืนยันว่าจะดูแล อย่างดีที่สุด เราจะใช้ทุกอย่างตามศักยภาพที่เรามี ในการรักษาความปลอดภัยของพี่น้องคนไทย
เมื่อถามว่าทางการอิสราเอล แจ้งมาว่าอย่างไรบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทางอิสราเอลให้การยืนยันว่า จะดูแลคนไทยอย่างดีที่สุด บางส่วนตอนนี้ทางการอิสราเอลก็ได้อพยพ ไปอยู่ที่ปลอดภัยแล้ว
นายภูมิธรรม ยังเปิดเผยด้วยว่า มีนักศึกษาที่เป็นคนไทยไปเรียนที่อิสราเอลด้วยจำนวน 8-9 คน ตอนนี้ยืนยันว่าปลอดภัยทุกคน