หลัง 'อิศรา' ตีข่าว ผู้ต้องขังจีนเทาอัดคลิปจากคุกไทยแพร่ผ่านสื่อสหรัฐฯโวยถูกใส่ร้าย-หวั่นถูกส่งกลับประเทศ กรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารข่าวแจงทันทีเป็นขั้นตอนเยี่ยมญาติผ่านระบบไลน์ใช้มาตั้งแต่ช่วงโควิด มีทำผิดกฎระเบียบข้อบังคับนำออกเผยแพร่สู่สาธารณชน ตัดสิทธิการเยี่ยม พร้อมตั้งคกก.สอบข้อเท็จจริงแล้ว ขู่เล่นงานวินัยชั้นเด็ดขาด
จากกรณี สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวการจับกุมนายเสอจื้อเจียง นักธุรกิจจีนซึ่งถูกจับที่ประเทศไทยและถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมานานกว่า 1 ปี ด้วยข้อหาว่ามีส่วนเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมที่ประกอบกิจกรรมในประเทศเมียนมา โดยสำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียซึ่งเป็นสื่อสัญชาติสหรัฐอเมริกาได้รายงานข่าวภาคภาษาจีนเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ว่านายเสอจื้อเจียงได้อัดวิดีโอความยาว 1 นาที 48 วินาที คลิปวิดีโอลงวันที่ 20 ก.ย. 2566 เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาของตัวเองระบุว่า หน่วยงานความมั่นคงในประเทศจีนใส่ร้ายเขาและเน้นย้ำว่าเขาไม่เคยคิดจะฆ่าตัวตายแต่อย่างใด ขณะที่ตอนนี้ศาลไทยยังไม่ตัดสินใจในประเด็นเรื่องว่าจะส่งตัวเขากลับไปประเทศจีนหรือไม่
ล่าสุด กรมราชทัณฑ์ ได้เผยแพร่ข่าวประชาสันพันธ์ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้ ระบุว่า วันที่ 28 กันยายน 2566 จากกรณีได้มีการเผยแพร่ผ่านสื่อ Tiktok โดยใช้ชื่อ @leileimldq กล่าวถึงกรณีที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ควบคุมตัวนายแซจินเจียง คดีผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งมีข้อความพาดพิงและกล่าวอ้างถึงประเทศไทยและรัฐบาลจีน ที่ร่วมกันจำคุกนายแซจินเจียงโดยไม่มีหมายจับ และถูกลักพาตัวเข้าเรือนจำ โดยมีภาพคลิปการเยี่ยมญาติผ่านระบบไลน์ ขณะนายแซจินเจียง อยู่ภายในเรือนจำ นั้น
กรมราชทัณฑ์ ได้ตรวจสอบข้อมูลจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่าได้รับตัวนายแซจินเจียงตามหมายศาลอาญา (รัชดา) ฝากขัง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2565 เพื่อรอคำสั่งจากศาลเพื่อส่งผู้ร้ายข้ามแดนว่าจะไปยังประเทศใด และจากการตรวจสอบคลิปการเยี่ยมญาติผ่านระบบไลน์แล้ว พบว่า นายแซจินเจียง ได้รับอนุญาตให้เยี่ยมญาติเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 โดยตัวผู้ต้องขังอยู่ภายในแดนควบคุมพฤติกรรม และมีเจ้าหน้าที่ควบคุมสัญญาณอินเตอร์เน็ตอยู่ด้านนอกเรือนจำ และเปิดสัญญาณเข้าในแดนตามช่วงเวลาที่อนุญาตให้เยี่ยม ซึ่งจะมีการฟัง การสนทนา พร้อมมีล่ามจีนแปลภาษาให้ตลอดการสนทนา
จากกรณีดังกล่าว ญาติที่เยี่ยมนายแซจินเจียง ได้ทำผิดกฎระเบียบข้อบังคับในการเยี่ยมญาติผ่านระบบไลน์ โดยนำออกเผยแพร่สู่สาธารณชน
ทางเรือนจำฯ จึงได้ดำเนินการตัดสิทธิการเยี่ยมญาติผ่านช่องทางระบบไลน์นายแซจินเจียง พร้อมตั้งคณะกรรมสอบข้อเท็จจริงเรียบร้อยแล้ว
โดยกรมราชทัณฑ์ ได้มีนยบายให้เรือนจำทัณฑสถานทั่วประเทศดำเนินการเปิดการเยี่ยมญาติผ่านระบบไลน์ มาตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาการเยี่ยมผ่านระบบไลน์ ทำให้การปฏิบัติงานด้านการควบคุมและพัฒนาพฤตินิสัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ต้องขังและญาติผู้ใช้บริการเป็นอย่างยิ่ง แต่หากพบว่าผู้ต้องขัง หรือญาติกระทำผิดกฎระเบียบ ก็จะดำเนินการทางวินัยขั้นเด็ดขาด
สำหรับรายละเอียดในเนื้อหาวิดีโอนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า สื่อจีนมีการระบุชื่อผู้ต้องหาว่า นายเสอจื้อเจียง เนื้อหาเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัว และประวัติของนายเสอ ระบุถึงสถานะที่ตัวเองเคยมีในหน่วยงานของประเทศจีน อาทิ เคยเป็นรองประธานสหพันธ์ผู้ประกอบการจีนโพ้นทะเล และฝ่ายบริหารสภาความมั่นคงแห่งชาติจีน นายเสออ้างว่าเขาถูกใส่ความและถูกข่มเหงทางการเมืองโดยรัฐบาลจีน และเขาอาจถูกปิดปากด้วยการส่งตัวกลับไปประเทศจีน เขาเน้นย้ำอีกว่าเขาจะไม่ฆ่าตัวตายแน่นอนและถ้าหากเขาได้รับบาดเจ็บโดยบังเอิญ มันก็จะเป็นผลงานของหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของจีนและหน่วยข่าวกรองไทย ลักษณะเป็นการแถลงข่าวมากกว่าการเยี่ยม พบปะพูดคุยกับญาติ
โดยนายเสอแก้ต่างว่าเขาประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และจัดการที่ดินในประเทศเมียนมาเท่านั้น แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนิคม KK Park ซึ่งมีส่วนในการฉ้อโกง
ขณะที่บุคคลซึ่งเผยแพร่วิดีโอบอกกับสำนักข่าวเรดิฟรีเอเชียว่าในเรือนจำไทยไม่ได้อนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือเข้าไป แต่ว่าในนั้นมีอุปกรณ์ถ่ายภาพ ซึ่งนี่เป็นการใช้ประโยชน์จากกระบวนการทุจริตที่สามารถพบได้ในเรือนจำไทย และหลังจากการดำเนินการที่ซับซ้อน ในที่สุดก็สามารถนำวิดีโอนี้ปล่อยออกมาได้
นอกจากนี้ สำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียซึ่งเป็นสื่อสัญชาติสหรัฐอเมริกาได้รายงานข่าวภาคภาษาจีนเรื่องนี้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ขณะนี้กรมราชทัณฑ์ เพิ่งออกเอกสารชี้แจงข่าว หลังจากอิศรานำเสนอข่าวเรื่องนี้เป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ขณะที่ท่าทางของ นายเสอจื้อเจียง ที่ปรากฏในคลิปมีลักษณะคล้ายเป็นการแถลงข่าวมากกว่าการเยี่ยมพบปะพูดคุยกับญาติ