เผยมติ อ.ศร. ให้ 'เชาวนะ ไตรมาศ’ อดีตเลขาฯศาล รธน. ออกจากราชการ คดีถูกชี้มูลกล่าวหาเอื้อเอกชนจัดซื้อคอมพิวเตอร์ 281 เครื่อง 13 ล้าน แต่ยังได้รับบำเหน็จบำนาญอยู่ - ล่าสุด ป.ป.ช.ลงมติฟ้องคดีเองแล้ว หลัง อสส.ตีสำนวนกลับ
ISRA-EXCLUSIVE : สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา องค์กรกลางบริหารบุคคลสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ (อ.ศร.) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล ตีความและวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากการใช้บังคับตามระเบียบศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2544 ประกอบไปด้วยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกคน มีประธานศาลรัฐธรรมนูญเป็นประธาน ได้มีมติให้ นายเชาวนะ ไตรมาศ อดีตเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ออกจากราชการ เนื่องจากถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีกล่าวหาเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคาเกี่ยวกับการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ จำนวน 281 เครื่อง ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มูลค่า 13 ล้านบาทเศษ พร้อมพวกจำนวนหลายราย ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา
อนึ่ง การที่ อ.ศร. มีมติให้ นายเชาวนะ ออกจากราชการดังกล่าว นายเชาวนะ ยังคงได้รับบำเหน็จบำนาญอยู่
@ เชาวนะ ไตรมาศ อดีตเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
สำหรับความคืบหน้าคดีกรณีกล่าวหาเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคาเกี่ยวกับการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ จำนวน 281 เครื่อง ดังกล่าวนั้น ก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา รายงานว่าไปแล้วว่า นายเชาวนะ ได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 54 (1) มาเพิ่มเติม อ้างว่ามีพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งเป็นการยื่นเรื่องรอบสอง ขณะที่ นายเชาวนะ เกษียณอายุราชการไปเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565
หลังจากที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายเชาวนะ ไตรมาศ อดีตเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ ผอ.ศูนย์เทคโนโลยี และบริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญา รวมถึงผู้จัดการบริษัท กรรมการ และผู้เกี่ยวข้องรวมหลายราย และส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณาฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย แต่ฝ่ายอัยการ ได้แจ้งข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนการไต่สวนมาให้ ป.ป.ช.รับทราบ ต่อมามีการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างฝ่ายอัยการและฝ่าย ป.ป.ช. ขึ้นมาเพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ร่วมกัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง จึงมีการคืนสำนวนกลับมาที่ ป.ป.ช.
ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติให้ฟ้องคดีเองแล้ว ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างร่างคำฟ้อง
ขณะที่ การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวทั้งหมด ยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
อ่านประกอบ :
- ยื่นรอบสอง! อดีตเลขาฯ ศาลรธน.ขอความเป็นธรรม ป.ป.ช.คดีซื้อคอมฯ-อ้างมีพยานหลักฐานใหม่
- ป.ป.ช.ชี้มูล‘เลขาฯศาล รธน.-พวก’เอื้อเอกชนจัดซื้อคอมพิวเตอร์ 281 เครื่อง 13 ล.