เผยมติ ป.ป.ช.เอกฉันท์ ตีตกข้อกล่าวหา 'ทวนทอง ใจยศ' อดีตนายก อบต.อมก๋อย เชียงใหม่ คดีที่ 3 เอื้อประโยชน์ให้บุตรชายได้งานโครงการก่อสร้างศูนย์เด็กเล็ก หลังพิจารณาผลไต่สวนเบื้องต้นเห็นว่าไม่ได้กระทำความผิด ไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ตีตกข้อกล่าวหา นายทวนทอง ใจยศ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อมก๋อย อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ กรณีเอื้อประโยชน์ให้บุตรชายของผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ได้งานโครงการก่อสร้างศูนย์เด็กเล็กบ้านมะหินหลวง และบ้านแม่ต๋อม
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้น มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่า นายทวนทอง ใจยศ ไม่ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
คดีนี้ ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป ว่า มีการเอื้อประโยชน์ให้ นายอมร ใจยศ บุตรชายของผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ได้งานโครงการก่อสร้างศูนย์เด็กเล็กบ้านมะหินหลวง และบ้านแม่ต๋อม โดยใช้ชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่งใน อำเภอจอมทอง เป็นคู่สัญญาบังหน้า รวมทั้งงานไม่เป็นไปตามแบบที่กำหนด
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นายทวนทอง ใจยศ ผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำหรับ 2 คดีก่อนหน้านี้
คดีแรก เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2562 ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับคำตัดสิน ศาลอาญาคดีทุจริตและ ประพฤติมิชอบภาค 5 ที่ให้ยกฟ้อง นายทวนทอง ใจยศ คดีกล่าวหา จัดทำประกาศสอบราคาและเอกสารสอบราคา ในการจัดซื้อผ้าห่มกันหนาวปีงบประมาณ 2553 ขึ้นใหม่โดยมิชอบความผิด ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา ป.อ. มาตรา 157 , 158 และ 188
เป็นให้จำเลยมีความผิดตาม ปอ. มาตรา 157(เดิม) จำคุก 1 ปี และปรับ 6,000 บาท ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 8 เดือน และปรับ 4,000 บาท ให้รอการลงโทษ มีกำหนด 2 ปี
คดีสอง เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืน ตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ที่พิพากษาตัดสินว่า นายทวนทอง ใจยศ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 147 และมาตรา 157 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท กรณีดำเนินโครงการจ้างเหมาซ่อมแซมถนนลูกรังหัวสะพาน และโครงการจ้างเหมาซ่อมแซมถนนลูกรังบ้านใหม่ หมู่ที่ 5 ในปีงบประมาณ 2551 เป็นเท็จ ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 147 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90 จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 5 ปี จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 กำหนด 2 ปี 6 เดือน
ทั้งสองคดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีในชั้นศาลที่สูงกว่านี้ได้อีก
อ่านประกอบ :
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 