เผยข้อกล่าวหา 'เจริญ จรรย์โกมล' อดีตรองปธ.สภาฯ ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลเอกฉันท์คดีจัดสัมมนาเท็จ โดนอาญาหลายมาตรา ผลไต่สวนระบุใช้สถานะตำแหน่ง สส. ก้าวก่ายแทรกแซงเพื่อประโยชน์ตัวเอง เผยรายชื่อผู้ถูกกล่าวชั้นไต่สวน มีอีก 9 ราย รวม 'สุวิจักขณ์' อดีตเลขาฯ สภา ด้วย
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2566 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด นายเจริญ จรรย์โกมล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กรณีถูกกล่าวหาจัดสัมมนาเท็จ หลังตรวจสอบพบทำหลายโครงการหลายพื้นที่แต่ไม่ได้ไปจริง แค่พาหัวคะแนนมาเที่ยวสภาฯ นั้น
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลเพิ่มเติมว่า ข้อกล่าวหา นายเจริญ จรรย์โกมล ในคดีนี้ เป็นเรื่องการไม่ดำเนินการจัดโครงการให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่ได้รับอนุมัติ และมีการจัดทำเอกสารหลักฐานเท็จและนำเอกสารหลักฐานเท็จดังกล่าวมาเบิกเงินค่าใช้จ่ายจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในการดำเนินโครงการเสริมสร้างและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ ชี้มูลความผิดทางอาญา นายเจริญ จรรย์โกมล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 151, 157,161 , 162 ประกอบมาตรา 83 และฐานความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192
หลังไต่สวนพยานเอกสารหลักฐาน พบว่า มีการใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่นหรือของพรรคการเมือง ในการปฏิบัติราชการหรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และเป็นการร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตเป็นเหตุให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รับความเสียหาย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องและมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนเป็นทางการในช่วงปลายปี 2562 หลังมีข้อมูลว่า โครงการเสริมสร้างและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีการทุจริต ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ นอกจาก นายเจริญ จรรย์โกมล แล้วยังมีกลุ่มข้าราชการเจ้าหน้าที่ และเอกชนอีก 9 ราย โดยผู้ถูกกล่าวหาในกลุ่มข้าราชการเจ้าหน้าที่ ที่ถูกคณะกรรมการไต่สวนเสนอชื่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิด มีนายสุวิจักขณ์ หรือนายวัชระชัยย์ นาควัชระชัย หรือนาควัชระชัยท์ อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รวมอยู่ด้วย
แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันเป็นทางการ ว่า นายสุวิจักขณ์ หรือนายวัชระชัยย์ นาควัชระชัย หรือนาควัชระชัยท์ ถูกชี้มูลความผิดในคดีนี้ด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตัดสินคดีเป็นทางการ ผู้ถูกกล่าวหาจึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
กล่าวสำหรับ นายสุวิจักขณ์ หรือนายวัชระชัยย์ นาควัชระชัย หรือนาควัชระชัยท์ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2566 ป.ป.ช. ได้แถลงผลชี้มูลความผิดกรณีจัดจ้างโครงการปรับปรุงระบบนาฬิกา (Clock system) สำหรับติดตั้งบริเวณภายในและโดยรอบอาคารรัฐสภา โดยมิชอบ ไปแล้ว