ป.ป.ช.ลงมติเอกฉันท์ชี้มูล 'เจริญ จรรย์โกมล' อดีตรองปธ.สภาผู้แทนราษฎร กรณีถูกกล่าวหาจัดสัมมนาเท็จ แค่พาหัวคะแนนมาเที่ยวสภาฯ 'นิวัติไชย' ยันมีสำนวนสอบอยู่ แต่ยังไม่ทราบที่ประชุมชุดใหญ่ชี้มูลแล้วหรือไม่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2566 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด นายเจริญ จรรย์โกมล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กรณีถูกกล่าวหาจัดสัมมนาเท็จ หลังตรวจสอบพบทำหลายโครงการหลายพื้นที่แต่ไม่ได้ไปจริง แค่พาหัวคะแนนมาเที่ยวสภาฯ
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตัดสินคดีเป็นทางการ ผู้ถูกกล่าวหาจึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ขณะที่ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาฯ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์สำนักข่าวอิศรา ว่า ยังไม่ทราบว่าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลคดี นายเจริญ จรรย์โกมล เป็นทางการไปแล้วหรือไม่ เนื่องจากมาปฏิบัติภารกิจในต่างจังหวัด แต่ทราบว่ามีสำนวนการไต่สวนคดีนายเจริญ จรรย์โกมล ที่เกี่ยวกับการจัดทำโครงการที่มีการเบิกจ่ายไม่ไม่ถูกต้องหรือเบิกจ่ายเท็จอยู่
สำหรับข้อมูลนายเจริญ จรรย์โกมล ถูกระบุว่า เคยประกอบอาชีพเป็นทนายความ เริ่มต้นเข้าสู่งานการเมืองโดยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชัยภูมิ ในการเลือกตั้ง เดือนกันยายน พ.ศ. 2535 สังกัดพรรคชาติไทย ต่อมาได้ย้ายมาสังกัดพรรคความหวังใหม่ พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทยตามลำดับ เคยได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร 3 คณะ คือ ประธานคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม และประธานคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 ได้รับเลือกจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคไทยรักษาชาติ ลำดับที่ 12 แต่พรรคไทยรักษาชาติ ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก่อนวันเลือกตั้ง
ในช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 นายเจริญและลูกชาย นาย ธนกฤต จรรย์โกมล เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (อ้างอิงข้อมูลจากวิกิพีเดีย)