ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตเลขาสภาฯ พร้อมพวกสมคบเอกชน แก้ไข TOR จัดซื้อ-ติดครั้งนาฬิการัฐสภามูลค่า 14.9 ล้านบาทเมื่อปี 56 เผยพฤติการณ์มการเจาะจงบริษัทที่ไม่ได้ทำนาฬิกาจริง แต่ไปซื้อนาฬิกามาอีกทอดหนึ่ง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีการแถลงข่าวในหลายประเด็น โดยนายภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.เป็นผู้แถลงข่าว
โดยคดีที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายวัชระชัยย์ หรือสุวิจักขณ์ นาควัชระชัยท์ หรือนาควัชระชัย พร้อมพวก กรณีจัดจ้างโครงการปรับปรุงระบบนาฬิกา (Clock system) สำหรับติดตั้งบริเวณภายในและโดยรอบอาคารรัฐสภา โดยมิชอบ
คดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติมอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวนเบื้องต้น กรณีกล่าวหานายวัชระชัยย์ หรือสุวิจักขณ์ นาควัชระชัยท์ หรือนาควัชระชัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กับพวก รวม 16 ราย ว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีจัดจ้างโครงการปรับปรุงระบบนาฬิกา (Clock system) สำหรับติดตั้งบริเวณภายในและโดยรอบอาคารรัฐสภา โดยมิชอบ ทำให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รับความเสียหาย
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า ในการจัดจ้างโครงการปรับปรุงระบบนาฬิกา (Clock system) สำหรับติดตั้งบริเวณภายในและโดยรอบอาคารรัฐสภาของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ. 2556 นายวัชระชัยย์ หรือสุวิจักขณ์ นาควัชระชัยท์ หรือนาควัชระชัย ได้สั่งการให้ นายสุชนา ศรีสิยวรรณ ผู้ใต้บังคับบัญชา ติดต่อไปยังพนักงานของบริษัท อินสแตนท์ เซอร์วิสเซส จำกัด ให้ประมาณการราคานาฬิกาเพื่อนำไปใช้กำหนดวงเงินงบประมาณโครงการ จากนั้นได้มีการกำหนดวงเงินงบประมาณโครงการ เป็นเงินจำนวน 15,122,845 บาท
และในขั้นตอนการจัดทำร่าง TOR และเอกสารประกวดราคา นายสุชนา ศรีสิยวรรณ ซึ่งเป็นกรรมการกำหนดร่าง TOR และร่างเอกสารประกวดราคา (ชุดเดิม) และเป็นประธานกรรมการกำหนดรายละเอียดและคุณลักษณะเฉพาะของงาน (ชุดใหม่) ได้ร่วมมือกับพนักงานของบริษัท อินสแตนท์ เซอร์วิสเซส จำกัด กำหนดคุณลักษณะของนาฬิกาที่จะใช้ในโครงการดังกล่าว โดยกรรมการผู้จัดการบริษัท อินสแตนท์ เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งสนิทสนมกับนายศราวุธ พงษ์สงวนสุข กรรมการผู้จัดการบริษัท อิควิป แมน จำกัด (ผู้ชนะการประกวดราคา) สั่งการให้พนักงานของบริษัท อินสแตนท์ เซอร์วิสเซส จำกัด ติดต่อกับบริษัท พรีเซียส ไทม์ เทรดดิ้ง จำกัด เพื่อกำหนดจุดติดตั้งและรายละเอียดของนาฬิกา รวมทั้งแก้ไขคุณสมบัติของนาฬิกาให้เป็นไปตามที่ต้องการ ทั้งที่การจัดทำร่าง TOR เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกำหนดร่าง TOR
จากนั้นนายสมคิด หรือชรัณ ศึกขันเงิน หรือภู่พานิชพงศ์ และนายภัทร เสถียรกาล กรรมการกำหนดรายละเอียดและคุณลักษณะเฉพาะของงาน (ชุดใหม่) ร่วมกับนายสุชนา ศรีสิยวรรณ ได้นำร่าง TOR และร่างเอกสารประกวดราคาฉบับเดิมมาปรับแก้มูลค่าผลงานแล้วเสนอขออนุมัติร่าง TOR ต่อมาในขั้นตอนการขออนุมัติเพื่อจัดจ้างโครงการปรากฏว่านายพิสิฏฐ์ เกตุประเสริฐวงค์ และนางสาวจุฑารัตน์ ลิขิตจิตถะ เจ้าหน้าที่พัสดุ ไม่ได้เสนอราคามาตรฐานหรือราคากลางของทางราชการหรือราคาที่เคยซื้อหรือจ้างครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา 2 ปีงบประมาณให้หัวหน้าส่วนราชการใช้ประกอบดุลพินิจในการอนุมัติจัดจ้าง
ทั้งไม่ได้รายงานว่าการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวไม่มีราคามาตรฐานหรือราคากลางของทางราชการหรือราคาที่เคยซื้อหรือจ้างครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา 2 ปีงบประมาณ และในขั้นตอนการยื่นซองประกวดราคาปรากฏว่ามีเพียงบริษัท อิควิป แมน จำกัด และบริษัท พรีเซียส ไทม์ เทรดดิ้ง จำกัด ที่ยื่นซองประกวดราคา โดยทั้งสองบริษัทต่างยื่นเสนออุปกรณ์นาฬิกายี่ห้อ Bodet โดยบริษัท อิควิป แมน จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดเป็นเงิน 14,891,083 บาท คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาประกอบด้วย นายทวีเกียรติ เชาวลิตถวิล นายมานิตย์ หน่องพงษ์ นายคม แสงแก้ว นางสาวจุฑารัตน์ ลิขิตจิตถะ และนางสาวสายสมร ตระกูลอำนวยผล ได้พิจารณาให้บริษัท อิควิป แมน จำกัด ชนะการประกวดราคาและเป็นผู้มีสิทธิเข้าทำสัญญา
ทั้งที่ บริษัท อิควิป แมน จำกัด ไม่มีวัตถุประสงค์ในการจำหน่ายและติดตั้งระบบนาฬิกาตามประกาศประกวดราคา จนกระทั่งมีการอนุมัติจัดจ้างและลงนามในสัญญาโดยที่นายสมพงษ์ ปรีชาธนพจน์ รองเลขาธิการฯ ผู้มีอำนาจพิจารณาอนุมัติไม่ได้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา และในขั้นตอนการส่งมอบงาน บริษัท อิควิป แมน จำกัด ไม่ได้สั่งนำเข้านาฬิกาจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายโดยตรง แต่สั่งซื้อนาฬิกาจากบริษัท พรีเซียส ไทม์ เทรดดิ้ง จำกัด (ผู้เสนอราคาอีกราย) มาส่งมอบให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และยังพบว่าบริษัท อิควิป แมน จำกัด มีการปลอมหนังสือรับรองผลงานและสัญญาจ้างที่ใช้ประกอบการเสนอราคา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจึงไม่ได้เบิกจ่ายเงินค่าจ้างให้บริษัท อิควิป แมน จำกัด และได้บอกเลิกสัญญาในเวลาต่อมา
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
1. การกระทำของนายวัชระชัยย์ หรือสุวิจักขณ์ นาควัชระชัยท์ หรือนาควัชระชัย และนายสุชนา ศรีสิยวรรณ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามกฎ ก.ร. ว่าด้วยวินัยข้าราชการรัฐสภาสามัญ พ.ศ. 2555 ข้อ 6 (1)
2. การกระทำของนายศราวุธ พงษ์สงวนสุข และบริษัท อิควิป แมน จำกัด มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 มาตรา 264 และมาตรา 268 วรรคสอง ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และมาตรา 268 วรรคสอง ได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาด สิทธิการดำเนินคดีอาญาย่อมระงับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4) ให้ยุติการดำเนินคดีตามฐานความผิดดังกล่าว
3. การกระทำของนางสาวดวงกมล อุดมกิจปัญญา และบริษัท พรีเชียส ไทม์ เทรดดิ้ง จำกัด มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
4. การกระทำของนายสมพงษ์ ปรีชาธนพจน์ นายพิสิฏฐ์ เกตุประเสริฐวงค์ นายสมคิด หรือชรัณ ศึกขันเงิน หรือภู่พานิชพงศ์ และนายภัทร เสถียรกาล มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง กรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการ ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ และไม่ปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมของทางราชการ ตามกฎ ก.ร. ว่าด้วยวินัยข้าราชการรัฐสภาสามัญ พ.ศ. 2555 ข้อ 2 (3) และข้อ 5
สำหรับความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรงในแต่ละราย นายพิสิฏฐ์ เกตุประเสริฐวงค์ นายสมคิด หรือชรัณ ศึกขันเงิน หรือภู่พานิชพงศ์ และนายภัทร เสถียรกาล สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มีคำสั่งลงโทษลดเงินเดือน เป็นการเหมาะสมแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาลงโทษทางวินัยอีก
5. การกระทำของนายทวีเกียรติ เชาวลิตถวิล นายมานิตย์ หน่องพงษ์ นายคม แสงแก้ว และนางสาวสายสมร ตระกูลอำนวยผล มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง กรณีประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามกฎ ก.ร. ว่าด้วยวินัยข้าราชการรัฐสภาสามัญ พ.ศ. 2555 ข้อ 3 (4) และข้อ 6 (7)
6. การกระทำของนางสาวจุฑารัตน์ ลิขิตจิตถะ ในฐานะเจ้าหน้าที่พัสดุ มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง กรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ และไม่ปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมของทำงานราชการ ตามกฎ ก.ร. ว่าด้วยวินัยข้าราชการรัฐสภาสามัญ พ.ศ. 2555 ข้อ 2 (3) และข้อ 5 ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มีคำสั่งลงโทษลดขั้นเงินเดือน เป็นการเหมาะสมแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาลงโทษทางวินัยอีก
สำหรับการกระทำของนางสาวจุฑารัตน์ ลิขิตจิตถะ ในฐานะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง กรณีประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามกฎ ก.ร. ว่าด้วยวินัยข้าราชการรัฐสภาสามัญ พ.ศ. 2555 ข้อ 3 (4) และข้อ 6 (7)
ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับนายวัชระชัยย์ หรือสุวิจักขณ์ นาควัชระชัยท์ หรือนาควัชระชัย นายสุชนา ศรีสิยวรรณ นายศราวุธ พงษ์สงวนสุข บริษัท อิควิป แมน จำกัด นางสาวดวงกมล อุดมกิจปัญญา และบริษัท พรีเชียส ไทม์ เทรดดิ้ง จำกัด และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา
เพื่อดำเนินการทางวินัยกับนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย นายสมพงษ์ ปรีชาธนพจน์ นายทวีเกียรติ เชาวลิตถวิล นายมานิตย์ หน่องพงษ์ นายคม แสงแก้ว นางสาวจุฑารัตน์ ลิขิตจิตถะ นางสาวสายสมร ตระกูลอำนวยผล และนายสุขนา ศรีสิยวรรณ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป