เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'กนก บำรุงโลก' อดีตนายก อบต.บ้านทาม ปราจีนบุรี ปลอมลายมือชื่อเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน อปพร.นำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 2 พิพากษาลงโทษจำคุก 66 เดือน พร้อมพวก แต่ได้รอลงอาญา - ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายกนก บำรุงโลก เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านทาม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี กับ พวก คือ นายชัยพฤกษ์ ขุนเณร ปลอมลายมือชื่อเพื่อเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนการปฏิบัติงานของสมาชิกอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.ป. ป.ป.ช.พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 123/1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 มีคำพิพากษาว่า นายกนก บำรุงโลก จำเลยที่ 1 นายชัยพฤกษ์ ขุนเณร จำเลยที่ 2 มีความผิดตามกฎหมาย
การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ลงโทษจำเลยทั้งสองตามมาตรา 157 จำนวน 6 กระทง จำคุกกระทงละ 1 ปี พ.ร.ป. ป.ป.ช.พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 123/1 จำนวน 5 กระทง จำคุกกระทงละ 1 ปี รวมจำคุกคนละ 11 ปี
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 66 เดือน
ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ประกอบกับมีการวางเงินค่าเสียหายตามฟ้องให้แก่ อบต. บ้านทาม ผู้เสียหายครบถ้วนแล้ว
โทษจำคุก จึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี มาตรา 56
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งสอง มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2566 ได้พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบให้อุทธรณ์คำพิพากษา เพื่อให้ศาลพิพากษาโดยไม่รอการลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสอง
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ