อดีต ผอ.ฮิวแมนไรท์วอทช์ชี้ ไทยโหวตนายก ไม่เป็นไปตามประชาธิปไตย แต่เป็นความพยายามอย่างสิ้นหวังของเผด็จการทหารเพื่อรักษาอำนาจ ส่วนอดีต ส.ส.มาเลย์ฯ บอกเป็นวันอันน่าเศร้าของไทย ห่วงอาจมีประท้วงรุนแรง-ด้าน 'ฮุนเซน' ลบทวีตข้อความ พร้อมทวีตใหม่ ยันไม่เป็นอริกับ 'พิธา' และพร้อมทำงานร่วมกัน แต่ตอนนี้มีฝ่ายต่อต้านใช้ 'พิธา' เป็นเครื่องมือ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความเคลื่อนไหวในต่างประเทศเกี่ยวกับผลโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกลไม่ได้รับเลือกจากที่ประชุมรัฐสภาว่า ทางด้านของนายเคนเน็ธ รอส อดีตผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์ได้ออกมาทวีตบนทวิตเตอร์ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นข้อบ่งชี้ให้เห็นว่ากองทัพไทยได้ดำเนินการผ่านตัวแทนของพวกเขา พยายามที่จะคุมทิศทางของประเทศนี้เอาไว้โดยปฏิเสธเสียงของสาธารณชนที่เลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งการกระทำเช่นนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่ว่าเป็นความพยายามที่จนตรอกของทหารในการรักษาอำนาจเอาไว้
ขณะที่ทางด้านของนายชาร์ลส์ แอนโทนี ซานติอาโก้ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของมาเลเซียกล่าวว่าเป็นวันอันน่าเศร้าสลดของประชาธิปไตย จะมีการประท้วงและความไม่มั่นคงในประเทศอย่างต่อเนื่องหรือไม่? ยังคงหวังให้นายพิธาได้รับเสียงข้างมากในหมู่สมาชิกวุฒิสภาในการลงคะแนนเสียงต่อไปได้หรือไม่
สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวเพิ่มเติมว่าส่วนกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ว่านายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ทวีตข้อความลงบนทวิตเตอร์ยกถึงกรณีความพ่ายแพ้ของนายพิธา เพื่อตอบโต้กับฝ่ายต่อต้านในประเทศของตัวเอง ล่าสุดในช่วงวันที่14 ก.ค. นายฮุนเซนก็ได้ลบข้อความดังกล่าวแล้ว และได้ทวีตข้อความใหม่ระบุว่า
“ผมไม่คัดค้านนายพิธา และผมก็ไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย ข้อความของผมมีวัตถุประสงค์เพื่อบอกกลุ่มหัวรุนแรงในกัมพูชาว่าความปรารถนาของพวกเขาละลายเหมือนเกลือในน้ำ หลังจากที่ผมโพสต์ข้อความ คนไทยจํานวนมากแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาไทยซึ่งผมไม่เข้าใจ”
นายฮุนเซนกล่าวต่อไปว่าเขาต้องการจะเน้นย้ำใน 4 ประการดังต่อไปนี้
1. ผมไม่ได้ต่อต้านนายพิธา และผมพร้อมที่จะทํางานร่วมกับนายพิธา เผื่อว่านายพิธาจะเป็นผู้นํารัฐบาลไทย
2. ผมเคารพการตัดสินใจของคนไทย และผมไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของประเทศไทย
3.ผมพร้อมที่จะทํางานร่วมกับผู้นําไทยไม่ว่าใครจะหรือพรรคไหน
4.กลุ่มหัวรุนแรงกัมพูชาที่ใช้ดินแดนไทยดำเนินกิจกรรมต่อต้านกัมพูชา รวมถึงการใช้ชื่อของนายพิธาเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ควรหยุดการกระทําทางการเมืองที่อาศัยลมหายใจของผู้อื่นเพื่อทําลายชาติของตนเอง โดยเฉพาะการหยุดใช้ชื่อนายพิธาซึ่งไม่รู้ตัวว่ากําลังถูกใช้เพื่อต่อต้านกัมพูชา