สถาบันวิชาการออสเตรเลียวิเคราะห์ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยังเป็นอุปสรรคพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล เหตุนโยบายต่างๆทำฝ่ายอนุรักษ์นิยมยอมรับไม่ได้ คาดแต่ท้ายที่สุดกลุ่มผู้ทรงอำนาจคงต้องปล่อยให้พรรคก้าวไกลได้จัดตั้งรัฐบาลไปก่อน เพราะได้รับคะแนนเสียงคนกรุงเทพเยอะมาก แล้วค่อยจัดการทีหลัง หากมีกรณีทำผิดกฎหมาย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับการเลือกตั้งในประเทศไทยว่าเมื่อวันที่ 16 พ.ค. สถาบันโลวี่ซึ่งเป็นสถาบันวิชาการในประเทศออสเตรเลียได้ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับการเลือกตั้งในประเทศไทยระบุว่าสาระสำคัญว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมในประเทศไทยนั้นยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล
สถาบันโลวี่ระบุต่อไปว่าเท่าที่มีการวิเคราะห์ได้นั้น พบว่าฝ่ายกองกำลังอนุรักษ์นิยมของประเทศไทยมีทั้งแรงจูงใจและวิธีการที่จะขัดขวางไม่ให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคก้าวไกล เพราะว่านโยบายของพรรคก้าวไกลในหลายประการอาทิ การปฏิรูปการเมืองเพื่อจำกัดบทบาทของกองทัพในการเมืองถือว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้สำหรับฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่มีอำนาจ และการปฏิรูปกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้เน้นย้ำมาโดยตลอด
โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมากองทัพไทยมักจะมีการเตรียมพร้อมรับมือกับกรณีการประท้วงที่จะมาจากภาคอีสานเป็นประจำ อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งในครั้งนี้พบว่าพรรคก้าวไกลเอาชนะเสียงในกรุงเทพและในพื้นที่ปริมณฑลใกล้เคียง นี่ทำให้กองทัพต้องคิดให้หนักกว่าเดิมเป็นทวีคูณว่าจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งในกรุงเทพนั้นมีเสียงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตจากพรรครวมไทยสร้างชาติแค่ 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เมื่อเทียบกับ 42 เปอร์เซ็นต์ที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล โดยตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าคนกรุงเทพส่วนมากที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าขาย กิจการรัฐบาล,ภูมิปัญญา ต่างไม่ยอมรับการปกครองของรัฐบาลทหาร ยกตัวอย่างเช่นความเห็นจากหอการค้าไทยเองก็ระบุว่าต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพสามารถเดินหน้าการปฏิรูปที่มีความจำเป็น มากกว่าจะมีความวุ่นวายทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง
สถาบันโลวี่ระบุต่อไปว่าดังนั้นฝ่ายผู้ทรงอำนาจในประเทศไทยอาจจะคิดแล้วว่าการให้พรรคก้าวไกลเข้ามาบริหารประเทศอาจะเป็นยุทธวิธีที่ฉลาดกว่า โดยท้ายที่สุดแล้วการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งทางการเมืองที่ยาวนานของประเทศไทยระหว่างกลุ่มหัวก้าวหน้าและฝ่ายกองกำลังของผู้ที่มีอำนาจแล้ว อาทิในปี 2557 ที่มีการรัฐประหารเกิดขึ้นก็มาจากกลุ่มผู้ทรงอำนาจ เพราะมีความรู้สึกว่าการใช้ทางเลือกอื่นๆเพื่อจัดการอีกฝ่ายนั้นใช้ไม่ได้ผลแล้ว
โดยในครั้งนี้กลุ่มผู้ทรงอำนาจอาจจะคำนวณดูแล้วว่าควรจะให้การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลสามารถดำเนินไปก่อนได้ แล้วค่อยใช้กลไกทางกฎหมายจัดการในภายหลัง ถ้าหากมีกรณีการทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น