ป.ป.ช.พาสื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ รีสอร์ทหรูรุกเขาแสมสาร หลังเจ้าของไม่รื้อถอนตาม ทร.กำหนด ชี้เป็นการก่อสร้างเหตุเอาตู้คอนเทนเนอร์นำมาวาง ด้าน 'นิวัติไชย เกษมมงคล' เลขาฯ ยันนำที่หลวงไปใช้ส่วนตัวไม่ถูกต้อง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้จัดโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักงาน ป.ป.ช. ครั้งที่ 2 นำโดย นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายสุพจน์ ศรีงามเมือง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 2 และนายกิจติพงศ์ ขยิบแย้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบประเด็น รีสอร์ทหรูรุกที่บนเขาแสมสาร และสถานการณ์การทุจริตในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 2 ซึ่งมีปัญหาการนำที่หลวงไปใช้ส่วนตัวโดยไม่ถูกต้อง
โดยในช่วงเช้ามีการอภิปรายในประเด็น รีสอร์ทหรูรุกที่บนเขาแสมสาร นายกิจติพงศ์ กล่าวว่า รีสอร์ตหรูดังกล่าว ชื่อ Star Over Sea ที่เปิดให้บริการเป็นลักษณะตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 6 ตู้ ทุกตู้มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ในบริเวณหน้าผาหันหน้าออกทะเล ยอดเขาหลวงพ่อดำ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยทางสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดชลบุรี ได้ทราบข้อวิพากษ์วิจารณ์จากทางโซเชียลมีเดีย ถึงการก่อสร้างและเปิดให้บริการรีสอร์ตแห่งนี้ ว่าถูกต้องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากตั้งอยู่บนพื้นที่ราชพัสดุ และเป็นพื้นที่ดูแลของกองทัพเรือ
จากการได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่า กรณีดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นโดย น.ส.รมณี โจว ยื่นแบบขอเช่าพื้นที่ราชพัสดุ (จป.3902) แปลงเลขทะเบียน ชบ.481 ต่อธนารักษ์พื้นที่จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ 7-2-08 ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์การขอเช่าเพื่ออยู่อาศัย และการเกษตร เมื่อ พ.ย. 2562
ต่อมา ม.ค. 2563 ธนารักษ์พื้นที่จังหวัดชลบุรี ได้ทำหนังสือถึง ผบ.ฐานทัพเรือสัตหีบ ขอทราบความยินยอมกรณีขอเช่าพื้นที่ดังกล่าว จะขัดข้องหรือไม่ อย่างไรก็ดี ส.ค. 2565 เจ้าหน้าที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ขอเช่าดังกล่าว พบว่า มีการนำตู้คอนเทนเนอร์ (บ้านพักอัจฉริยะ/บ้านอากาศ) มาติดตั้งจำนวน 6 ตู้ (ดูภาพประกอบ)
ดังนั้น แสดงว่า น.ส.รมณี ได้ทำการก่อสร้างดังกล่าว ทั้งที่ยังไม่ได้ผ่านยินยอมให้เช่าพื้นที่ และได้ทำผิดสัญญาโดยนำมาทำเป็นรีสอร์ทหรู ดังนั้น ทางฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ทำการแจ้งให้ น.ส.รมณี หยุดดำเนินการจนกว่าจะได้รับการยินยอมจากกองทัพเรือ พร้อมแจ้ง อบต.แสมสาร ขอความร่วมมือกำกับดูแลการในพื้นที่ราชพัสดุ
ในที่สุด พ.ย. 2565 ฐานทัพเรือสัตหีบ ทำบันทึกเสนอความเห็นไปยังกองทัพเรือ เรื่องการขอเช่าพื้นที่ของ น.ส.รมณี ไม่ผ่านหลักเกณฑ์และอยู่ในพื้นที่สงวนสิทธิ์การจัดให้เช่า
นายกิจติพงศ์ กล่าวต่อว่า ช่วงกลางเดือน มี.ค. 2566 กองอสังหาริมทรัพย์ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ประสานงานกับ สภ.สัตหีบ และ อบต.สัตหีบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้ง น.ส รมณี ระงับการดำเนินการกิจการตั้งแต่ 10 มี.ค. 2566 พร้อมมีการลงบันทึกประจำวันที่ สภ.สัตหีบ และดำเนินคดีฐานบุกรุก อีกทั้งแจ้ง อบต.แสมสาร ให้ตรวจสอบการขออนุญาตปลูกสร้างอาคาร และได้มีการสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายใน 30 วัน และในเดือนเดียวกันนั้น ทาง ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดชลบุรี และได้ติดตามความคืบหน้าในการรื้อถอนรีสอร์ทหรูนี้อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ
อย่างไรก็ตาม ภายหลังครบ 30 วันแล้ว น.ส.รมณี ยังไม่มีการรื้อถอนใด ๆ ทั้งสิ้น และได้มีหนังสืออุทธรณ์คำสั่งให้รื้อถอนกับ นายก อบต.แสมสาร
ทั้งนี้ ฐานทัพเรือสัตหีบ มีหนังสือไปยังสำนักงานพระธรรมนูญทหารเรือเพื่อให้ดำเนินการฟ้องขับไล่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ในคดีแพ่ง ส่วนคดีอาญาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรอำเภอสัตหีบจะเป็นผู้ดำเนินการฟ้องร้องกับทางเจ้าของกิจการต่อไป
ด้าน นายสุพจน์ ศรีงามเมือง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 2 เปิดเผยการบังคับใช้ทางกฎหมายว่า คดีรีสอร์ทดังกล่าว อาจจะมีการบังคับใช้คดี ทั้งหมด 3 ความผิด ได้แก่
1. ฝ่าฝืนปลูกสร้างโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างในบริเวณเขตปลอดภัยในราชการทหาร
2. ยึดถือครอบครองก่อสร้าง และกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน
3. บุกรุกตามประมวลกฏหมายอาญา
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ต่อมาในช่วงบ่าย ได้มีการลงพื้นที่ พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับกรณีศึกษาภารกิจป้องกันการทุจริต ประเด็น 'รีสอร์ทหรูบุกที่บนเขาชายหาดแสมสาร
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ป.ป.ช. ใช้นโยบายเชิงป้องปราม เนื่องจากได้รับข้อมูลข่าวสารทางโซเชียลมีเดีย เรื่อง มีการก่อสร้างรีสอร์ทบุกรุกที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะเป็นที่ดินในความครอบครองของกองทัพเรือ ทาง ป.ป.ช. เริ่มมีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่ทางกองทัพเรือ ก็ไม่ได้เพิกเฉย และมีการดำเนินการแจ้งไปทางคนที่เข้ามาบุกรุกทราบ หรือการเข้าครอบครองที่มิชอบ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีการแจ้งความดำเนินคดีในกรณีบุกรุกพื้นที่ในเขตราชพัสดุ ของกองทัพเรือ
นอกจากนี้ ได้มีการประสานงานไปยัง อบต.แสมสาร เพื่อให้มีการดำเนินการตรวจสอบว่าพื้นที่ดังกล่าว มีการออกใบอนุญาตหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่า ไมมีการออกใบอนุญาต และทาง อบต.แสมสาร ได้มีการดำเนินการแจ้งผู้บุกรุกทราบ เพื่อให้ดำเนินการแล้ว
นายนิวัติไชย กล่าวอีกว่า ป.ป.ช. ได้ติดตามและเฝ้าระวัง ว่ากรณีนี้มีการดำเนินการไปมากน้อยเพียงใดแล้ว อย่างไรบ้าง ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้า แต่ก็ยังไม่ถือว่ามีการรื้อถอนออกไป เพราะทางผู้บุกรุกใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งของทาง อบต.แสมสาร โดยให้เหตุผลว่า ไม่ได้ดำเนินการเป็นการปลูกสร้าง เนื่องจากตัวรีสอร์ทเป็นตู้คอนเทนเนอร์ นำมาวาง
แต่จากการตรวจสอบ พบว่า คำว่า 'อาคาร' กินความหมายไปถึงสิ่งปลูกสร้าง แม้จะไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างถาวร เป็นการนำมาตั้ง ก็คือว่าเป็นอาคารแล้ว เพราะฉะนั้น กรณีดังกล่าว จึงไม่ถูกต้องตามข้อกฎหมาย และจะมีการดำเนินการตามข้อกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ป.ป.ช. ได้ติดตามกรณี พื้นที่ที่มีการดำเนินการปลูกสร้างอยู่มันเป็นการลุกล้ำพื้นที่หลวง พื้นที่หลวงไม่ว่าจะเป็นที่ป่า หรือ อุทยาน ทาง ป.ป.ช. เห็นเป็นเรื่องสำคัญเพราะมันเป็นประโยชน์ของสาธารณะ คนที่จะใช้พื้นที่เหล่านี้ได้ คือ ประชาชน การที่นำที่หลวงไปใช้ส่วนตัว หารายได้ มันไม่ถูกต้อง
นายนิวัติไชย ย้ำว่า กรณีดังกล่าวยังไม่ปรากฎว่ามีใครกระทำความผิด ป.ป.ช.ลงมาแค่เตือน มาในเชิงป้องปรามก่อน และขอให้สื่อมวลชนช่วยกันเฝ้าติดตาม