ศาลไต้หวันสั่งจำคุกหัวหน้าขบวนการลวงเหยื่อขายกัมพูชา 18 ปี พบพฤติการณ์หลอกขายเหยื่อทำงานให้กับขบวนการฉ้อโกงออนไลน์ และจ่ายเงินเพื่อกลับไต้หวัน ชี้ขบวนการนี้แฝงตัวในไทย เมียนมา กัมพูชา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับขบวนการฉ้อโกงในต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยว่า ศาลประเทศไต้หวันได้มีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยจำนวน 9 คน เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 11-18 ปี ในข้อหาว่ามีส่วนในการล่อลวงเหยื่อจำนวนนับสิบรายไปยังประเทศกัมพูชาเพื่อให้ทำงานให้กับขบวนการฉ้อโกงออนไลน์
ทั้งนี้กลุ่มขบวนการฉ้อโกงออนไลน์ดังกล่าวนั้นพบว่ามีอยู่ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือว่าอาเซียน โดยมีอยู่มานานแล้ว และมีรายงานอีกว่าเหยื่อนั้นถูกหลอกให้เดินทางไปยังทั้งประเทศกัมพูชา เมียนมา และไทย โดยกลุ่มมิจฉาชีพจะหลอกเหยื่อด้วยข้ออ้างที่หลากหลายอาทิการลวงด้วยความรักปลอมๆ หรือหลอกลวงว่าเหยื่อได้รับข้อเสนองานที่มีรายได้สูง
โดยผู้ที่ถูกตัดสินจำคุกนั้นรวมไปถึงหัวหน้าขบวนการลักลอบจนมนุษย์ ซึ่งทางการไต้หวันระบุเมื่อปีที่แล้วว่าหัวหน้าขบวนการคนนี้ได้โฆษณาบนโซเชียลมีเดียว่าจะเสนอเงินเดือนที่สูงและเงินกู้ที่ง่าย
ทั้งนี้ศาลแขวงกรุงไทเปได้มีคำพิพากษาให้นายลี เฉิง-เฮา หัวหน้าขบวนการได้รับโทษจำคุกสูงสุด 18 ปี ส่วนจำเลยทั้งเก้าโดนข้อหาว่ามีส่วนในการจัดตั้งองค์กรอาชญากรรมการค้ามนุษย์และล่อลวงให้เหยื่อตกลงที่จะทำงานที่ได้รับเงินเดือนสูงหรือว่าช่วยชำระหนี้สินให้
“แต่ในความเป็นจริง ผู้ที่ถูกหลอกลวงถูกขายให้กับกัมพูชาในราคาหลายแสนดอลลาร์ไต้หวัน” ศาลระบุและระบุต่อไปว่าจำเลยคนอื่นๆถูกตัดสินจำคุกระหว่าง 11-16 ปีครึ่ง
สำหรับหนังสือเดินทางของเหยื่อนั้นถูกยึดไปเมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงประเทศกัมพูชาและพวกเขาถูกบังคับให้ทำงานในวงการมิจฉาชีพ และจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อกลับไปยังไต้หวัน
“เสรีภาพส่วนบุคคลของพวกเขาถูกจํากัด อย่างรุนแรงและหากพวกเขาปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือหรือหากการทำงานของพวกเขาไม่มีประสิทธิภาพ พวกเขาจะถูกทุบตี ลงโทษหรือแม้กระทั่งขายอีกครั้ง” แถลงการณ์ของศาลระบุ
สำหรับข้อมูลของเหยื่อที่ถูกหลอกลวงนั้นพบว่าจะอยู่ที่ช่วงอายุประมาณ 20-39 รายโดยมีจำนวนทั้งสิ้น 85 คน ซึ่งกลุ่มของนายลีนั้นพบว่าได้รับเงินสำหรับการขายเหยื่อต่อรายอยู่ที่ 18,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (19,998 บาท) และนอกจากนี้กลุ่มมิจฉาชีพยังได้เงินค่าตอบแทนอื่นๆอีก 14 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (15,554,042 บาท)
เรียบเรียงจาก:https://www.taipeitimes.com/News/taiwan/archives/2023/04/15/2003797987