‘รังสิมันต์ โรม’ อภิปรายม.152 เปิดปม ‘ทุนเมียนมา-จีนเทา’ ส.ว. อ. เอี่ยวทุนตุนมินลัด ซื้อที่แถวอารีย์ทำพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่ายยาว ‘จีนเทาตู้ห่าว’ สัมพันธ์ ‘หลานประยุทธ์-ประวิตร-ธรรมนัส’ ชี้เป้า ‘หยูซินฉี’ เกี่ยวพันค้ามนุษย์ พฤติกรรมแอบอ้างสถาบันหาประโยชน์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 22.21 น. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในประเด็นเกี่ยวกับตำรวจ 2 ประเด็น
ประเด็นแรก เกี่ยวกับ ‘นายอ.ทรงเอ’ ที่มีสายสัมพันธ์กับนายตุน มิน ลัต ชาวเมียนมาที่ถูกตำรวจไทยจับในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและฟอกเงิน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาลได้จับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด 3-4 กลุ่มที่ไปรับซื้อยาบ้าจากประเทศเมียนมา โดยการจ่ายเงินใช้วิธีโอนเงินเข้าบัญชีม้า มีผู้ควบคุมอยู่นอกประเทศ และเงินที่เข้าบัญชีม้า จะถูกโอนเข้าบัญชีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเมื่อเงินเข้าแล้วก็จะส่งยาบ้าต่อไปขายที่ท่าขี้เหล็ก แล้วจึงนำเงินที่เป็นค่ายาบ้าจ่ายให้ผู้ผลิต ซึ่งทำกันมาตั้งแต่ปี 2550 ผ่าน 3 บริษัท 1. บจ.เมียนมาอัลลัวร์ 2. บจ.อัลลัวกรุ๊ป และ 3. บจ.อัลลัวร์ พีแอนด์อี ทั้งหมดคือ การพยายามอำพรางเงินที่ผิดกฎหมาย
และตำรวจนครบาลได้จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย นายตุน มิน ลัต, นายดี และหญิง 2 ราย ชื่อนาง ป. และนางสาว น. โดยทั้ง 4 คนถูกฟ้องศาลเรียบร้อย และยังมีอีก 2 คนที่ถูกออกหมายจับและกำลังหลบหนี ได้แก่ นายพันณรงค์ ซึ่งถูกเปิดโปงว่าเป็นเจ้าพ่อพนันออนไลน์รายใหญ่ 1 ใน 3 ของไทย และนางสาว ก.
ทั้งนี้ ได้พบว่านายตุน มิน ลัด มีความสัมพันธ์กับ 'อ.ทรงเอ' ซึ่งพบว่ามีส่วนในการตั้งและถือหุ้นในบจ.เมียนมาอัลลัวร์ และบจ.อัลลัวกรุ๊ป และยังมีศักดิ์เป็นพ่อตาของ นายดีด้วย ที่สำคัญนาย อ. ยังได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ด้วย โดยนาย อ.ก็ออกมาปฏิเสธความสัมพันธ์ทั้งหมด แต่ยังพบว่า นาย อ. ยังเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการให้นาง ป. ไปจดจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ ถือเป็นการทำธุรกิจผ่านนอมินีอยู่เบื้องหลัง
ต่อมา ตำรวจนครบาลออกหมายจับ นาย อ. เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2565 ในฐานความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและการฟอกเงิน แต่ในวันเดียวกัน มีกระบวนการเรียกไปให้ถอนหมายจับออกไปก่อน เนื่องจากเมื่อพิจารณาคำแนะนำที่อ้างว่ามาจากอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ทางผู้ร้องแจ้งว่า ผู้ถูกออกหมายจับเป็นบุคคลสำคัญ แต่ไม่ได้แจ้งให้ศาลทราบ จึงให้เพิกถอนหมายจับและหมายค้น แล้วออกหมายเรียกก่อนใน 15 วัน หากผู้ถูกร้องไม่มาก็ให้ออกหมายจับต่อไป
@แฉ ส.ว. อ. ซื้อที่อารีย์ทำที่ทำการ ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’
ขณะเดียวกัน ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2566 พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการสืบสวนสอบสวนและจับกุมเครือข่ายของทุน มิน ลัตจนนำมาฟ้องคดีได้ เมื่อเดือนตุลาคม 2565 ถูกย้ายไปเป็นผู้กำกับการอยู่ที่ สภ.บ้านเดื่อ จ.ชัยภูมิ เป็นสัญญาณว่า การสืบสวนใดๆที่เกี่ยวกับ นายอ.จะต้องหยุดลงเท่านี้ ซึ่งสอดประสานไปได้เพราะมีผู้ดำเนินการเบื้องหลังที่ยังอยากใช้ประโยชน์คนๆนี้ต่อไป ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ถามว่าทำไมถึงเชื่อมไปถึงตัวพล.อ.ประยุทธ์ ก็เพราะว่านาย อ. เป็นผู้ซื้อที่ดิน ซ.อารีย์ 5 เนื้อที่ 2 งาน 17 ตารางวา จาก บจ.ยูพีเอ เมื่อ 4 ส.ค. 2564 เป็นจำนวนเงิน 101 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันที่ดินผืนนี้คือที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งการตั้งเป็น ส.ว. ถือว่าได้ประโยชน์ทั้งการโหวตนายกรัฐมนตรีและเป็นผู้รับเหมาสร้างที่ทำการพรรคให้ จึงอยากให้ชี้แจงว่า ได้มีการทำสัญญาเช่าที่ดินตรงนี้หรือไม่ ราคาเท่าไหร่ หรือยืมกันฟรีๆ ไม่อยากจินตนาการว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ ได้กลับมาเป็นายกฯอีกรอบหนึ่ง จะตอบแทนคนแบบนี้อย่างไร?
@แฉตุนมินลัดสัมพันธ์ มินอ่องหล่าย โยง ประยุทธ์
นอกจากนั้น นายตุน มิน ลัด ก็มีความสำคัญกับพล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นเจ้าของเครือบริษัทสตาร์ ซัฟไฟร์ ในการซื้อขายอาวุธ และเป็นผู้เซ็นอนุญาตให้ นายอ.ก่อสร้างโรงแรมในท่าขี้เหล็ก ถือเป็นผู้ให้ใบเบิกทางในการทำธุรกิจในเมียนมา โดยโรงแรมดังกล่าวเป็นบ่อนคาสิโน และผู้เล่นพนันบางรายยังบอกอีกว่า มีการเสพยาบ้าในนั้น และมีส่วนแบ่ง 6% เข้ากองทัพเมียนมาโดยตรง แปลว่า นายอ.เป็นผู้ช่วยหาเงินให้กองทัพเมียนมาด้วย แถมยังพบว่าทรัพย์สินของตุนมินลัดในไทย โดยพบสมุดบัญชีธนาคารและสัญญาซื้อขายคอนโดของบุตร พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา และทรัพย์สินนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ก็ไม่ได้ตามยึด อายัด หรือเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนด้วย แสดงว่า นายตุน มิน ลัด ไม่ใช่คนธรรมดา
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ต่อมา พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. เดินทางไปพบ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ที่ประเทศเมียนมา 3 วัน คาดว่าจะมีคุยเรื่องให้ปล่อยตัวนายตุน มิน ลัดแน่นอน และการตั้งนาย อ.เป็น ส.ว. พล.อ.ประยุทธ์ หวังผลตอบแทนจากธุรกิจมืด และเอาเงินที่ได้มาแบ่งกัน ฝั่งไทยก็เอามาเป็นทุนรอนในการสืบทอดอำนาจให้ตัวเอง
“ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าพลเอกประยุทธ์ตั้งใครขึ้นมามียศตำแหน่ง ไม่ได้แคร์อะไรเลยว่าจะมีอดีตที่ดำมืดแค่ไหน ขอเป็นคนมีเส้นมีสายมีสตางค์ที่พร้อมสืบทอดอำนาจให้ตัวเองก็พอ เพราะฉะนั้นพลเอกประยุทธ์จะปล่อยให้ส.ว. อ.หรือนายอุปกิต ปาจรียางกูล คนนี้จบเห่ไปเพียงลำพังไม่ได้” นายรังสิมันต์กล่าว
@เปิดประเด็น ตู้ห่าว อัดประยุทธ์
นายรังสิมันต์ อภิปรายต่อว่า ประเด็นที่ 2 คดีทุนจีนสีเทาที่มีนายตู้ห่าว หรือนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ เป็นตัวการ ที่ผ่านมาพบว่า มีกระบวนการไม่ชอบมาพากลและเป็นเรื่องปีศาจที่อยู่ในรายละเอียดมากมาย เช่น การนำภรรยาของนายตู้ห่าวไปเป็นพยานแทนที่จะเป็นผู้ต้องหา แล้วมีการข่มขู่พยาน หรือ รปภ.ของผับจิงหลินก็กลายเป็นผู้ต้องหา ทั้งที่ควรกันเป็นพยาน หรือการออกหมายจับนายตู้ห่าวที่ออกหมายจับเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2565 หรือเกือบ 1 เดือนหลังจากมีการบุกค้นผับจิงหลิน และไม่ตั้งข้อหาฟอกเงินและอาชญากรรมข้ามชาติ จนนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาจี้จึงตั้งข้อหาในที่สุด แต่ก็ทำให้ทางทุนจีนเทามีเวลายักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน เป็นต้น
ดังนั้น ที่ผ่านมา คดีตู้ห่าวมีการเตะถ่วง ประวิงเวลา รวมถึงอาจทำเพื่อรอกระแสซาลงไปแล้วแต่งเติมทีหลัง และเชื่อว่า จะมีกระบวนการล้มคดีไปจนกว่าจะมีคำพิพากษาในที่สุด จึงขอถามความรับผิดชอบจากผู้เกี่ยวข้องทั้ง ผบ.ช.น., ผบ.ตร. และพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) คดีนี้มีมาเป็นเดือนๆ ทำไมปล่อยให้การเตะถ่วงคดี เพราะนายตู้ห่าวเกี่ยวพันกับหลานของพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ ซึ่งหลานของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ปล่อยเช่ารถทัวร์ให้บริษัทในเครือของตู้ห่าวหรือไม่ คนอื่นสงสัยว่าเป็นการฟอกเงินหรือไม่ จะอ้างว่าไม่รู้จักนายตู้ห่าวไม่ได้
“อย่างน้อยที่สุดหลานของพล.อ.ประยุทธ์จะต้องถูกเรียกตัวมาสอบสวน ซึ่งผมได้ยินจากเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งว่า ตำรวจได้เชิญหลานของพล.อ.ประยุทธ์มาแล้วแต่เป็นการเชิญแบบเงียบๆ แล้วจะไม่ให้สงสัยได้อย่างไรว่า มีความพยายามไม่ให้เรื่องไปถึงวงศาคณาญาติของพล.อ.ประยุทธ์ด้วย และจะวางใจได้อย่างไรว่าคดีนี้จะไม่มีลูกเล่นอะไรให้หนีรอดกันไปได้อีก” นายรังสิมันต์ระบุ
@ตู้ห่าว เกี่ยวพัน ‘ธรรมนัส-ประวิตร-พปชร.’ ด้วย
นอกจากนี้ นายตู้ห่าวยังมีความสัมพันธ์กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.น่าน พรรคพลังประชารัฐ ด้วย โดยมีการไปงานปาร์ตี้วันเกิดภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส และทราบมาว่า ร.อ.ธรรมนัสยังเลี้ยงจีนเทาไว้หลายคน เช่น นายจาง เจียนฟู่, นายเฉิน เฟ่ง เชา และนายเกาฉี ที่อยู่เลขที่ 888 ถ.อโศก-ดินแดง ด้วยกัน โดยที่ตั้งเป็นโฉนดของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัย บจ.ทีพีการ์ด หรือชื่อเดิมคือ ธรรมนัส การ์ด ปัจจุบันมีภรรยาของร.อ.ธรรมนัส ถือหุ้นใหญ่
ตั้งแต่ปี 2561 คนจีนทั้ง 3 วนเวียนถือหุ้นในบจ.ไชน่า คิงดอม อินเตอร์เนชั่นแนล ต่อมา เมื่อเตรียมลงสมัครเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 3 คนก็เป็นนอมินีให้ ร.อ.ธธรมนัสอีก ถามว่า หลังจากนั้น บริษัทนี้ก็ไปสร้างผับชื่อดังว่า ‘ท็อปวัน’ ที่มีคนจีนไปเสพยาจนเสียชีวิต และเมื่อมีข่าวออกมา นายจาง เจียนฟู่ บุกคอนโดผู้ตายเผาทำลายทรัพย์สินทั้งหมด ทราบมาว่าได้ผู้กำกับ สน.สุทธิสาร ช่วยให้เรื่องเงียบด้วย ถ้าทางการจีนไม่กดดันนายจางคงลอยนวลไปแล้ว และตนได้ยินมาว่า นายจางคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย อยากทราบเงินที่ได้เข้ากระเป๋าใคร ใช่ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่
ส่วนทำไมพล.อ.ประยุทธ์ที่ชิงชัง ร.อ.ธรรมนัสไม่ขยายความ ก็เพราะว่าเมื่อเดือน พ.ค. 2564 ช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่แตกหักกับพล.อ.ประวิตร นายตู้ห่าวบริจาคให้พรรคพลังประชารัฐ 3 ล้านบาท และอีกคนที่บริจาคเงิน 3 ล้านบาทคือนายสิทธิพร ซึ่งในปี 2565 นายสิทธิพรก็บริจาคให้ทั้งพรรคพลังประชารัฐและพรรคเศรษฐกิจไทย แสดงว่า ร.อ.ธรรมนัสมีบทบาทในการดึงเงินทุนจีนเทาเข้ามาสนับสนุนทางการเงินให้รัฐบาลผ่านพรรคที่เป็นแกนนำ เป็นมือประสานผลประโยชน์ที่ต่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ เกลียดแค่ไหนก็ตัดขาดไม่ได้
นอกจากนายตู้ห่าวแล้ว ยังมีทุนจีนสีเทาอีกหลายคน อาทิ นายเซา เซียนโป ที่ชอบอ้างเป็นทูต ใช้รถนำขบวน พบการถ่ายภาพกับนายอนุชา นาคาสัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอ้างว่าสนิท พล.อ. ธ น้องรักพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐด้วย เป็นต้น
นายรังสิมันต์ อภิปรายอีกว่า นอกจากกระบวนการจีนเทาในประเทศ ยังมีกระบวนการจีนเทานอกประเทศที่ทำการค้ามนุษย์ โดยเหยื่อที่ใช้งานจนหมดประโยชน์จะถูกตัดอวัยวะภายในไปขาย ส่วนร่างกายก็นำไปโยนทิ้ง และที่สุดกระบวนการนี้ก็พยายามเข้ามาตั้งฐานในไทย โดยถึงกับเข้ามาประชุมคณะกรรมาธิการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล้กซ์ด้วย โดยหัวหน้าขบวนการนายเสอ จื้อ เจียงถูกจับกุมแล้ว
@จีนเทาอ้างเบื้องสูง
อีกกรณีหนึ่งคือ นายหยูซินฉี ในฐานะประธานมณฑลส่านซีสมาคมแห่งประเทศไทย ซึ่งพบว่าเป็นสมาคมเถื่อน ไม่ได้จัดตั้งทะเบียนในไทย และพบอีกว่ามีการตั้งโรงเรียนธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย ทั้งนี้ในปี 2563-2564 พบแล้วว่ามีจีนเทาผ่านแดน 7,000 คน และสมาคมนี้ของนายหยูมีคำถามว่า ได้นำเข้าคนจีนมาเท่าไหร่ รัฐบาลได้ตรวจสอบหรือไม่ คนที่เอาเข้ามาเหมือนนายตู้ห่าวหรือไม่
นอกจากนี้ นายหยูยังอ้างว่าตัวมีเส้นสายกับคนในราชสกุล นักการเมือง ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์เอง จนลามไปจนถึงระดับองคมนตรี และระดับสมเด็จพระสังฆราช และถึงที่สุดคืออ้างว่า ได้รับการต้อนรับจากราชวงศ์ไทยระดับเดียวกับนายพล และได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของราชวงศ์ไทย โดยมีการโพสต์ลงเพจตัวเอง เพื่อหาลูกค้าให้เข้าสมาคมตัวเอง และจะมีคนจีนเข้าใจผิดขนาดไหน รัฐบาลจึงควรกวดขันและติดตามจับกุมเครือข่ายเหล่านี้ให้หมดด้วย
ที่มาภาพทั้งหมด : ทีวีรัฐสภา
อ่านประกอบตู้ห่าว
- 4 บ.ตู้ห่าวค้างจ่ายภาษี! สรรพากรขอพาณิชย์จ.ภูเก็ตระงับจดฯเสร็จชำระบัญชี
- 'ตู้ห่าว' มอบตัวแล้ว หลังถูกออกหมายจับ บิ๊กโจ๊กรุดสอบปากคำ(1)
- เปิดอาณาจักรธุรกิจ‘ตู้ห่าว’ 21 บริษัท – เมีย ส.ส.ร่วมถือหุ้นอสังหาฯ จ.ภูเก็ต(2)
- เปิด บอจ.5 ชื่อเมีย‘ศราวุธ เพชรพนมพร’ ส.ส.อุดรฯ ร่วมหุ้น บ.‘ตู้ห่าว’-แจงไม่เคยรับผล ปย.(3)
- สนั่นภูเก็ต! ตร.สนธิกำลังนับร้อยค้นยึดทรัพย์ บ.เครือข่าย'ตู้ห่าว' หลังอิศราเปิดข้อมูล(4)
- สืบค้น บ.เอฟเวอร์ ยูเนียน จ.ภูเก็ต‘ตู้ห่าว - เมีย ส.ส. อุดรฯ’ แจ้งงบฯ รายได้ 2 แสน(5)
- 'บิ๊กโจ๊ก' เผยยึดทรัพย์ 'ตู้ห่าว' กว่า 5 พันล. 'ชูวิทย์' ชงข้อมูลเพิ่มหวั่นกม.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน(6)
- ‘วารุณี พรหมนอก’ อดีตภรรยา ‘ประชา’ ถือหุ้น 2 บริษัท‘ตู้ห่าว’ โอนปี 60(7)
- ใช้ข้อมูลอิศรา!‘เรืองไกร’ ยื่น ป.ป.ช.สอบเงินลงทุนเมีย 'ศราวุธ' ส.ส.เพื่อไทย ในบ.ตู้ห่าว(8)
- เพื่อไทยยันไม่เกี่ยว'ตู้ห่าว'-แจงปมเมีย 'ศราวุธ'ถือหุ้นเอฟเวอร์ยูเนียนเป็นเรื่องส่วนตัว(9)
- บริษัทที่22 ! ‘ตู้ห่าว’ ถือหุ้นรีสอร์ท จ.สมุทรปราการ 20 ล. โอนปี 2561(10)
- 'พัชรินทร์' ผู้ถือหุ้น บ.ตู้ห่าว ให้ปากคำ จนท.รอบ 3 ทนายยันพร้อมให้ความร่วมมือ(11)
- ไปยื่นบัญชี ป.ป.ช.เพิ่มแล้ว!'ศราวุธ' แจงปมเมียร่วมหุ้น บ.ตู้ห่าว-ไม่ขอโต้ 'เรืองไกร' (12)
- ‘พัชรินทร์’ หุ้นส่วนรีสอร์ท-สปา‘ตู้ห่าว’ ถือหุ้น กก. 5 บริษัท – ซื้อขายอสังหาฯด้วย (13)
- แค่พ่อแม่ชาวจีนรู้จักกัน! ทนาย'พัชรินทร์' ยันรีสอร์ทหรูไม่เกี่ยวข้อง 'ตู้ห่าว-คดียาเสพติด'(14)
- 'ตู้ห่าว' ไม่เคยบริหาร! ตามไปดูรีสอร์ท บ.ดีวาลักซ์ฯ ยัน 'พัชรินทร์' เป็นเจ้านายคนเดียว(15)
- 'บิ๊กโจ๊ก' เผยยึดทรัพย์ 'ตู้ห่าว' กว่า 5 พันล. 'ชูวิทย์' ชงข้อมูลเพิ่มหวั่นกม.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน(16)
- รีสอร์ทหรูด้วย!'สมศักดิ์' แถลงยึดทรัพย์เครือข่าย'ตู้ห่าว'อีก3 พันล.-หลังอิศราลงพื้นที่(17)
- เจาะบัญชีทรัพย์สิน ศราวุธ-เมีย แจ้ง423 ล. เงินลงทุน 4 แห่ง ไม่มีหุ้น บ.ตู้ห่าว(18)
- 'บิ๊กโจ๊ก-ป.ป.ส.' ลงพื้นที่ รร.ดีวาลักซ์ อายัดทรัพย์กว่า 9 พัน ล. โยงคดี 'ตู้ห่าว'(19)
- แห่งที่ 3! ‘วารุณี’ อดีตภรรยา ‘พล.ต.อ.ประชา’ ร่วมธุรกิจรังนก ‘ตู้ห่าว’(20)
- 'อัจฉริยะ' ร้องสอบ 'บิ๊กปิง' เอื้อประโยชน์ทุนจีนสีเทา-ล้มคดีพนันออนไลน์(21)
- ดีเอสไอเรียกสอบ 16 คน คดี‘ตู้ห่าว’ถูกกล่าวหาฟอกเงิน มีชื่อ ‘พัชรินทร์`’ ด้วย(22)
- ‘นครบาล’ รวบ ‘วันทนารีย์-พัชรินทร์’ ขยายผลคดีตู้ห่าว จ่อออกหมายจับอีก 15 ราย(23)
- 'ชูวิทย์' จี้ ผบ.ตร. เปลี่ยนตัว ผบช.น.คุมคดี'ตู้ห่าว' ชี้มีกระบวนการทำสำนวนคดีให้อ่อน(24)
- ‘สิทธิไพบูลย์ คำนิล’ ตัวละครคดีฟอกเงิน ‘ตู้ห่าว’ ถือหุ้น-กก. 11 บริษัท(25)
- บริษัทที่ 4! ‘วารุณี พรหมนอก’ ถือหุ้นธุรกิจ ‘ตู้ห่าว’ จ.ภูเก็ต 2 ล.(26)
- อสส.แถลงอัปเดตคดี 'ตู้ห่าว' สิ้นปี 65 ออกหมายจับอีก 12 รวบเพิ่ม 2 ผู้ต้องหา (27)
- พลิกธุรกิจ ‘วารุณี-นุดีพร’ภรรยา-ลูกสาว‘พล.ต.อ.ประชา’ หลังร่วมหุ้น 5 บ.‘ตู้ห่าว’ (28)
- ตร.สรุปสำนวนฟ้อง 'ตู้ห่าว-พวก' ให้ อสส.แล้ว ค้ายา-ฟอกเงิน ยึดทรัพย์ได้ 5,345 ล. (29)
- อสส.มีคำสั่งฟ้อง 'ตู้ห่าว' พร้อมพวก 41 ราย คดียาเสพติด อั๊งยี่,ปืนเถื่อน,แรงงานต่างด้าว (30)
อ่านประกอบเกี่ยวกับ ส.ว."อ."
- 'อัจฉริยะ' ยื่น ป.ป.ช.สอบ 'อุปกิต' ปมแจ้งบัญชีทรัพย์สินขายโรงแรมท่าขี้เหล็ก
- ส่อง บ.บลูเคอร์ กรุ๊ป ‘พันณรงค์’เครือข่าย‘ทุน มิน หลัด’ ซื้อหุ้น 132 ล.ปริศนา!ฃ
- สอบภาษี! ระงับจดทะเบียนเสร็จชำระบัญชี บ.อัลลัวร์ กรุ๊ป กลุ่ม ‘พันณรงค์ ขุนพิทักษ์’
- แกะรอย‘อัลลัวร์ กรุ๊ป’พันณรงค์!‘อุปกิต’ก่อตั้ง-โอนหุ้นหลายครั้ง บ.ฮ่องกงร่วมถือด้วย
- เจาะขุมธุรกิจ ‘พันณรงค์ ขุนพิทักษ์’ ถือหุ้น กก. 7 บริษัท - ‘บลูเคอร์ กรุ๊ป’152 ล.
- ข้อมูลใหม่! ‘พันณรงค์ ขุนพิทักษ์’ ถือหุ้น กก. 7 บริษัท แจ้งใช้ที่อยู่เดียวกับโรงแรม
- โชว์โอนเงินเข้าแบงก์กรุงไทย 278.8 ล.! ไขปม‘พันณรงค์’ถือหุ้น บ.บลูเคอร์ กรุ๊ป 152.8 ล.
- คราวนี้ 30 ล.เข้าแบงก์ กสิกรไทย ‘พันณรงค์ ขุนพิทักษ์’เครือข่ายอัลลัวร์กรุ๊ป
- ส่อง บ.บลูเคอร์ กรุ๊ป ‘พันณรงค์’เครือข่าย‘ทุน มิน หลัด’ ซื้อหุ้น 132 ล.ปริศนา!
- เจาะสมบัติ 1.7 พันล.‘เสี่ยอุปกิต’เงินฝากแบงก์ลาว 554 ล.-ส่งเสียลูก‘ปารีณา’ 2.5 แสน/ด.
- เปิดตัวนักธุรกิจสปา-อาหารเสริมผู้ซื้อโรงแรมประเทศเมียนมาจาก‘อุปกิต’ 8 ล.ดอลลาร์สหรัฐฯ
- หวั่นข้อครหา! ‘อุปกิต’สามีเก่า‘ปารีณา’ขายโรงแรมท่าขี้เหล็ก-เมียนมา 8 ล.ดอลลาร์สหรัฐฯ
- พลิกเงื่อนงำถุงเงิน“ปารีณา ไกรคุปต์”ก่อนถูกโยงคดีค้าอาวุธ
- เปิดใบหุ้น 6 บริษัทสามี“ปารีณา”อดีต ส.ส.-นางงาม ไม่แจ้ง ป.ป.ช.
- “ปารีณา”แจงไม่ทราบเงินลงทุนสามี 91 ล. เหตุร้างรากันมานาน"ใกล้หย่า"