อสส.มีคำสั่งฟ้องตู้ห่าว พร้อมพวกรวม 41 ราย -มอบหมายสำนักยาเสพติด นำคำฟ้อง 322 หน้ายื่นต่อศาลอาญากรุงเทพใต้-จนท.ตำรวจ ดำเนินการจับกุม-พบมีข้อหาอั๊งยี่,ปืนเถื่อน,รับแรงงานต่างด้านไม่มีใบอนุญาต ควบข้อหายาเสพติดด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าในวันที่ 19 ม.ค. อัยการสูงสุด (อสส.) ได้มีการออกเอกสารข่าวเผยแพร่กรณีที่ อสส.มีคําสั่งฟ้องนายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ กับพวก ระบุว่า
ตามที่ สํานักงานอัยการสูงสุดได้รับสํานวนการสอบสวนคดีนายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ กับพวก จากผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566 และอัยการสูงสุดได้พิจารณาสํานวนการสอบสวนคดี ดังกล่าวแล้ว นั้น
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 นางสาวนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด จึงได้มีคําสั่งฟ้อง นายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ กับพวก รวม 41 ราย ในความผิดฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 โดยกระทําการในลักษณะเป็นการกระทํา ขององค์กรอาชญากรรม
ร่วมกันจําหน่ายโดยมีไว้เพื่อจําหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทําเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและโดยมีอาวุธปืน ทําให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน ร่วมกันจําหน่ายโดยมีไว้เพื่อจําหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทําเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและโดยมีอาวุธปืน ทําให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน
สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน เป็นอั้งยี่ มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเป็นสมาชิกหรือเครือข่ายดําเนินงาน ขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดร้ายแรง เกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
- ร่วมกันรับคนต่างด้าวทํางานโดยคนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตให้ทํางาน โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย - ร่วมกันให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม
และในวันนี้ (19 มกราคม 2566) เวลา 15.00 น. อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้สํานักงานคดียาเสพติด สํานักงานอัยการสูงสุด นําคําฟ้อง จํานวน 332 หน้า ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตํารวจ ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาส่งฟ้องต่อศาลภายในอายุความตามกฎหมายต่อไป