ป.ป.ช. เผยความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'พนิดา ชำนิกุล' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลน้ำสวย อำเภอเมืองเลย ละเว้นจัดการผู้รับเหมาไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้างงาน แถมแก้ไขสัญญาช่วย ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนลงโทษ จำคุก 2 กระทง 4 ปี ไม่รอลงอาญา ไม่พึงเป็นเยี่ยงอย่างในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นางพนิดา สารวงษ์ หรือ ชำนิกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลน้ำสวย อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ละเว้นไม่ดำเนินการกับผู้รับจ้างที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้างและแก้ไขสัญญาจ้างให้เป็นไปตามแบบแปลนที่ผู้รับจ้างก่อสร้างในโครงการก่อสร้างโรงเก็บพัสดุและโครงการก่อสร้างอาคารโรงอัดปุ๋ยเม็ด
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563
ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืน ตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่มีคำพิพากษาว่า นางพนิดา สารวงษ์ หรือ ชำนิกุล จำเลยมีความผิดตามมาตรา 157 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นความผิดไปตามมาตรา 91 แต่ละกระทง
จำคุก 2 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 ปี
การกระทำของจำเลยไม่พึงเป็นเยี่ยงอย่างในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ จึงไม่รอการลงโทษแก่จำเลย
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ลงมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวในหมวดเดียวกัน