ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'มุขสุดา ติวุฒานนท์' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลศรีสำโรง สุโขทัย เบียดบังทรายเทศบาลฯ ไปใช้ประโยชน์ก่อสร้างต่อเติมโรงแรมซันสไมล์ รีสอร์ท กิจการส่วนตัว ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้โทษ ให้จำคุก 3 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา คืนทราย 60 กระสอบ หลังศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 8 เดือน ได้รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นางมุขสุดา ติวุฒานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลศรีสำโรง อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ว่าเบียดบังทรายของเทศบาลตำบลศรีสำโรง ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวในการก่อสร้างต่อเติมโรงแรมซันสไมล์ รีสอร์ท ซึ่งเป็นกิจการส่วนตัว
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ.มาตรา 147, 151 , 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่พิพากษาว่า นางมุขสุดา ติวุฒานนท์ จำเลยมีความผิดตามมาตรา 157 ให้จำคุก 1 ปี และปรับ 3,000 บาท
จำเลยให้การรับว่าสั่งการให้ใช้รถยนต์ของเทศบาลตำบลศรีสำโรงขนทรายพิพาทไปและชดใช้ค่าเสียหายแก่เทศบาลศรีสำโรงแล้ว
นับว่ามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตาม ป.อ. มาตรา 78 คงจำคุก 8 เดือน และปรับ 2,000 บาท
ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนให้รอการลงโทษ 2 ปี ตามมาตรา 56
ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ. มาตรา 28, 30 ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดตาม มาตรา 147 และ 151 และยกคำขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหาย
เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 147 , 151 เป็นกรรมเดียวหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 147 เพียงบทเดียว
จำคุกจำเลยมีกำหนด 5 ปี
ทางไต่สวนเป็นประโยชน์ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก มีกำหนด 3 ปี 4 เดือนไม่รอลงอาญา และไม่ปรับ
ให้จำเลยคืนทรายบรรจุกระสอบซึ่งเป็นทรัพย์สินที่จำเลยเบียดบังไป 60 กระสอบ
หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาเป็นเงิน 2,400 บาท แก่เทศบาลศรีสำโรงผู้เสียหาย
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ลงมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท