UN เผยรายงานชาวโรฮิงญากว่า 180 คนอาจเสียชีวิตกลางทะเลไปแล้วหลังพยายามหนีออกจากบังกลาเทศมายังมาเลเซีย ช่วงเดือน พ.ย. ชี้เป็นข่าวร้ายอย่างยิ่ง หลังเคยร้องขอประเทศในเอเชียแต่ไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าองค์การสหประชาชาติได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขว่ามีชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 180 คนที่อาจจะเสียชีวิต หลังจากออกจากบังกลาเทศด้วยเรือลำหนึ่งในช่วงเดือน พ.ย. แล้วต้องเคว้งคว้างอยู่กลางทะเลโดยไม่มีอาหารและน้ำนานนับเดือน
โดยเรือลำดังกล่าวนั้นพบว่าเพิ่งออกจากท่าเรือในอ่าวเขตค็อกซ์บาซาร์ ประเทศบังกลาเทศ มุ่งหน้าไปยังประเทศมาเลเซีย แล้วต้องเคว้งคว้างอยู่กลางทะเลเนื่องจากเครื่องยนต์เรือใช้การไม่ได้
“สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้รับรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันเกี่ยวกับ... เรือที่มีชาวโรฮิงญา 180 คนสูญหายในทะเล ญาติขาดการติดต่อ มีการสันนิษฐานว่าผู้ที่ติดต่อครั้งสุดท้ายทุกคนนั้นเสียชีวิตหมดแล้ว เราหวังว่าหวังว่านี่จะไม่เป็นเช่นนั้น” UNHCR ทวีตเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ความคืบหน้าข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่สหประชาชาติได้ออกมาเรียกร้องซำแล้วซ้ำเล่าให้มีการช่วยเหลือโรฮิงญาที่ถูกทำร้าย แต่ดูเหมือนว่าความพยายามดังกล่าวจะประสบความล้มเหลว
“เรือที่โชคร้ายลํานี้เริ่มเดินทางเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน พร้อมกับเรืออีกลำที่ได้รับการช่วยเหลือในน่านน้ำศรีลังกา รายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันระบุว่าเรือที่ไม่ทนทะเลลำนี้เริ่มมีรอยแตกเมื่อต้นเดือนธันวาคมก่อนที่จะขาดการติดต่อ” UNHCR ระบุ
UNHCR ระบุต่อไปว่าถ้าหากนี่เป็นเรื่องจริงจะถือว่าเป็นข่าวร้ายอย่างยิ่ง เรารู้สึกเสียใจกับญาติที่ต้องเสียคนที่เป็นที่รักด้วยโศกนาฎกรรมในครั้งนี้ ที่ผ่านมาเราได้พยายามเรียกร้องให้ประเทศต่างๆในภูมิภาคได้ช่วยเหลือชีวิตผู้คนมาโดยตลอด ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
ทั้งนี้ย้อนไปเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. UNHCR ได้มีการออกแถลงการณ์ระบุว่า มีชาวโรฮิงญากว่า 190 คนเสี่ยงที่จะเสียชีวิตกลางทะเล บนเรือที่ลอยลำอยู่ที่ไหนสักแห่งระหว่างทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอล ซึ่งที่ผ่านมาทางได้มีการเรียกร้องให้ประเทศในเอเชียช่วยเหลือคนกลุ่มนี้และพาขึ้นฝั่ง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่รายงานจากสื่อและจากองค์กรสิทธิมนุษยชนระบุว่ามีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาบนเรืออีกสองลำที่ลอยอยู่กลางทะเลได้รับการช่วยเหลือไปแล้วเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.เรือบรรทุกน้ำมันเวียดนามได้ช่วยเหลือเรือที่มีชาวโรฮิงญากว่า 154 คนก่อนส่งตัวให้กองทัพเรือเมียนมา และเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.กองทัพเรือศรีลังกาได้ให้กันช่วยเหลือเรือที่มีชาวโรฮิงญากว่า 104 คน ที่ท่าเรือคังเกซันทูไร
ทางด้านของนายนายนูร์ ข่าน ลิตัน นักปกป้องสิทธิมนุษยชนคนสําคัญกล่าวกับสำนักข่าวอนาโดลูของประเทศตุรกีว่าพบว่าในช่วงดือน พ.ย.ที่ผ่านมา มีเรือออกจากชายฝั่งเมืองค็อกซ์บาซาร์ประมาณ 3-4 ลำ โดยมีชาวโรฮิงญาบนเรืออย่างน้อย 400 คน
ทั้งนี้ประเทศบังกลาเทศเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้การพักพิงกับชาวโรฮิงญากว่า 1.2 ล้านคน โดยค่ายพักพิงอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ในค็อกซ์บาซา นับตั้งแต่เกิดวิกฤติผู้ลี้ภัยทะลักในปี 2560 อันเนื่องมาจากกองทัพเมียนมาใช้กำลังปราบปรามชาวโรฮิงญาอย่างหนัก
โดยผู้ลี้ภัยเหล่านี้เดินทางทางข้ามทะเลที่อันตรายเพื่อไปยังมาเลเซีย ไทยและอินโดนีเซีย และมีรายงานว่าชาวโรฮิงญาบางส่วนหวังที่จะกลับไปยังประเทศเมียนมาซึ่งเป็นบ้านเกิดของพวกเขาที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหาร
เรียบเรียงจาก:https://www.aa.com.tr/en/asia-pacific/at-least-180-rohingya-adrift-at-sea-feared-dead-un/2772668