บิ๊กตู่สั่งช่วยเรือรบหลวงสุโขทัยอับปาง หลังถูกคลื่นซัดตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ 18 ธ.ค. ขณะ ทร.แจง ช่วยได้แล้ว 75 นาย ยังลอยคอกลางทะเลอีก 33 นาย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าสืบเนื่องจากที่ปรากฎเป็นข่าวตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 18 ธ.ค. ว่าเรือหลวงสุโขทัยนั้นถูกคลื่นซัดจนเอียงกลางทะเลอ่าวไทย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. มีรายงานข่าวว่าเรือรบหลวงสุโขทัยได้จมลงใต้ผิวน้ำแล้ว แม้ว่าเจ้าหน้าที่จากเรือรบจำนวนหลายลำจะพยายามเข้าประกบเพื่อพยุงเรือหลวงสุโขทัย เป็นเวลานานหลายชั่วโมง แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง ทำให้น้ำเข้าเรือตลอดเวลา จนจมตามที่ปรากฎเป็นข่าว
ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 19 ธ.ค. พลเอกคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบสถานการณ์เรือหลวงสุโขทัย หมายเลข 442 ซึ่งมีลูกเรือกว่า 30 นาย ยังพลัดหาย อยู่ระหว่างการระดมความช่วยเหลือจากกองทัพเรือ ด้วยอากาศยานและเรืออย่างเต็มความสามารถ โดยขอเป็นกำลังใจให้กับกำลังพลที่พลัดหายทุกนาย พร้อมขอให้กองทัพเรือระดมความช่วยเหลือให้ถึงที่สุดอย่างเต็มความสามารถ โดยหวังว่ากำลังพลทุกนายจะได้รับการช่วยเหลือทั้งหมดและปลอดภัยทุกนาย
ขณะที่วันนี้เมื่อเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา พลเรือเอกปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ได้แถลงความคืบหน้าเรือหลวงสุโขทัยประสบเหตุน้ำเข้าเรือจนเกิดการเอียง เนื่องจากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวน บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่เนื่องจากขณะนั้นบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรงทำให้เรือเอียงจนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ ส่งผลให้เครื่องไฟฟ้าดับ เครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน ซึ่งผลจากเครื่องจักรใหญ่และเครื่องจักรช่วยหยุดทำงานเป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ ส่งผลให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนเรือเอียง
ในเวลาต่อมากองทัพเรือสั่งการให้เรือรบและอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ พร้อมชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน รวมถึงประสานหน่วยภายนอกร่วมให้การช่วยเหลือ
ทั้งนี้ เรือหลวงกระบุรี เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุเมื่อเวลา 20.40 น. (วันที่ 18 ธ.ค. 2565) โดยพยายามเข้าเทียบเรือหลวงสุโขทัย เพื่อส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่และช่วยเหลือกำลังพลจำนวน 106 นาย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากคลื่นลมยังคงรุนแรง ต่อมาเรือหลวงสุโขทัยมีอาการเอียงมากขึ้นและจมลงเมื่อเวลา 00.12 น. (วันที่ 19 ธ.ค. 2565) ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มีเรือลากจูงเอกชนจากท่าเรือบางสะพาน 2 ลำ และเรือน้ำมัน STRAITS ENERGY มาถึงจุดเกิดเหตุเพื่อให้การสนับสนุนช่วยเหลือ
ต่อมาเวลา 01.04 น. เฮลิปคอปเตอร์แบบซีฮอว์ก (Seahawks) 2 ลำ เดินทางมาถึง พร้อมทำการปล่อยแพช่วยเหลือลงทะเล 8 แพ โดยเรือต่างๆ ช่วยเหลือกำลังพลขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว 73 นาย แบ่งเป็นอยู่บนเรือหลวงกระบุรี 47 นาย เรือลากจูง 4 นาย เรือน้ำมันศรีไชยา 20 นาย และเรือน้ำมัน STRAITS ENERGY อีก 2 นาย และยังคงมีกำลังพลอีก 33 นาย ที่ลอยคออยู่ในทะเล ซึ่งเรือทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือต่อไป
โฆษกกองทัพเรือ ระบุต่อไปว่า เรือหลวงกระบุรี เรือลากจูง และเรือน้ำมันศรีไชยา นำกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 71 นาย ไปยังท่าเรือบางสะพานเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำลังพล 11 นาย เข้ารักษาที่โรงพยาบาลบางสะพาน ส่วนกำลังพล 40 นาย ไปยังศูนย์พักพิง สำหรับกำลังพลที่ขึ้นมาจากเรือน้ำมันศรีไชยา 20 นาย เดินทางไปยังโรงพยาบาลบางสะพาน เพื่อตรวจร่างกายและคัดแยกต่อไป
นอกจากนี้ เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา เรือหลวงกระบุรีออกจากท่าเรือบางสะพานไปยังพื้นที่เกิดเหตุเพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือร่วมกับเรือหลวงอ่างทอง รวมถึงอากาศยานแบบ Dornier และเฮลิปคอปเตอร์แบบซีฮอว์ก ที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหากำลังพลทั้งหมด และเตรียมการในการกู้เรือหลวงสุโขทัยต่อไป
อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือโดยกองเรือยุทธการ ได้ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติ เพื่อเร่งดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือกำลังพลและกู้ภัยเรือหลวงสุโขทัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ โดยญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือสามารถติดสอบถามได้ที่ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยหมายเลขโทรศัพท์ 0-3818-2435 และ 08-4002-3554 ล่าสุดมียอดกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 75 นาย.
สำหรับประวัติของเรือรบหลวงสุโขทัย อ้างอิงข้อมูลจากกองทัพเรือระบุว่าเรือหลวงสุโขทัยลำนี้เป็นเรือลำที่ 2 หลังจากที่เรือลำแรกซึ่งก็คือเรือรบหลวงรัตนโกสินทร์ได้ปลดระวางไปแล้ว เนื่องจากมีการใช้งานมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยเรือหลวงลำนี้ เป็นเรือหมายเลข 442 วางกระดูกงู เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2527 ขึ้นระวางประจำการ 19 ก.พ. 2530 สร้างโดย Tacoma Boat Building Co, สหรัฐอเมริกา มีความยาวตลอดลำ 76.8 เมตร ความกว้าง 9.6 เมตร กินน้ำลึก 4.5 เมตร ความเร็วมัธยัสถ์ 18 นอต ความเร็วสูงสุด 24 นอต ระวางขับน้ำปกติ 840 ตัน ระวางขับน้ำสูงสุด 960 ตัน ระยะปฏิบัติการไกลสุด 3,568 ไมล์
@ระบบตรวจการณ์
ประกอบไปด้วยเรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ Decca 1226
เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ/อากาศ ZW-06
เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ/อากาศ DA-05
โซนาร์ติดใต้ตัวเรือ STN Atlas DSQS-21C
เรดาร์ควบคุมการยิง WM-25
LIROD-8 optical
@ระบบอาวุธ
ปืน 76/62 มม. จำนวน 1 กระบอก
ปืน 40L70 มม. แท่นคู่ 1 กระบอก
ปืน 20 มม. 2 กระบอก
ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น-สู่-พื้น แบบ ฮาร์พูน 2 แท่น (8 ท่อยิง)
ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น-สู่-อากาศ แบบ อัลบราทรอส 1 แท่น (8 ท่อยิง)
ท่อตอร์ปิโด 2 แท่น (6 ท่อยิง)
@ระบบขับเคลื่อนและเครื่องจักรช่วย
เครื่องจักรใหญ่ดีเซล MTU 20V1163 TB83 2 เครื่อง
เพลาใบจักร 2 เพลา