รองนายกฯมาเลเซียออกโรงเตือนชาวมาเลฯระวังโฆษณาชวนทำงานต่างประเทศให้ค่าตอบแทนสูง หวั่นตกเป็นเหยื่ออาชญากร หลังพบล่าสุดชาวมาเลฯถูกหลอกไปทำงานบ่อนพนันออนไลน์ชายแดนไทย-เมียนมาอีก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่านายดาตุก เสรี ฟาดิลลาห์ ยูซุฟ รองนายกรัฐนตรีมาเลเซียได้ออกมาประกาศเตือนขาวมาเลเซียทั่วประเทศให้ระวังและคอยตื่นตัวเกี่ยวกับโฆษณาหางานปลอมที่ถูกโพสต์ลงบนอินเตอร์เน็ต
โดยนายฟาดิลลาห์ซึ่งเป็นส.ส.เมืองเปตราจายา รัฐซาราวักด้วยนั้นกล่าวเตือนชาวมาเลเซียและชาวซาราวักว่าให้ระวังข้อเสนองานที่ดูหรูหราในการทำงานในต่างประเทศ ซึ่งเขากังวลว่าจะระวังว่าผู้ที่หางานทำอาจจะตกเป็นเหยื่อได้โดยง่าย
“ผมขอเตือนชาวมาเลเซียทุกคน ไม่วาคุณจะมาจากไหน ได้โปรดคอยเฝ้าระวังเมื่อคุณได้รับข้อเสนองาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันมาจากโซเชียลมีเดีย” นายฟาดิลลาห์กล่าวและย้ำว่าไม่ว่าจะมาจากแอปพลิเคชัน Telegram หรือ Whatsapp ได้โปรดเฝ้าระวังถ้าหากคุณได้รับข้อเสนองานและสัญญาว่าจะได้รับเงินเดือนที่ดี แต่ว่าคุณต้องไปทำงานในต่างประเทศและมีบางอย่างที่ดูผิดกติ
นายฟาดิลลาห์กล่าวต่อว่าดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรจะต้องสอบสวนก่อนว่าแหล่งท่าของข้อเสนอชวนให้ไปทำงานนั้นถูกต้องหรือไม่
ทั้งนี้การจัดแถลงข่าวของนายฟาดิลลาห์เกิดขึ้นหลังจากที่มีเหตุการณ์ที่ชาวมาเลเซียจำนวนแปดคนตกเป็นเหยื่อขบวนการอาชญากรรมขบวนการหลอกสมัครในในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
โดยเหยื่อทั้งแปดคนนั้นพบว่าเป็นชาวซาราวักเจ็ดคน อายุตั้งแต่ 20-28 ปี
นายฟาดิลลาห์กล่าวด้วยว่าการสอบสวนโดยจ้าหน้าที่นั้นพบว่าผู้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการหลอกหางานนั้นถูกบังคับให้ทำงานในสถานที่ประกอบกิจกรรมการพนันออนไลน์ โดยพวกเขาเพิ่งรู้เนื้องานจริงหลังจากไปถึงประเทศเป้าหมายปลายทางเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย สถานกงสุลใหญ่ในดูไบและสถานทูตกำลังดำเนินงานประสานงานอย่างใกล้ชิดหลังจากทราบข้อมูลเรื่องนี้
โดยเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ชาวมาเลเซียแปดคนซึ่งตกเป็นเหยื่อของขบวนการหลอกจัดหางานในดูไบนั้นได้ถูกช่วยเหลือกลับมายังมาเลเซียได้เป็นผลสำเร็จ โดยพวกเขาได้ถูกส่งตัวให้กับตำรวจมาเลเซียเพื่อให้ขยายผลในเรื่องของการสืบสวนต่อ
มีรายงานจากกระทรวงต่างประเทศระบุด้วยว่าชาวเมเลเซียสองคนนั้นตกเป็นเหยื่อขององค์กรอาชญากรรมริมชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งพวกเขานั้นได้รับการช่วยเหลือจากสถานทูตมาเลเซียในกรุงเทพที่ได้ทำงานประสานกับตำรวจมาเลเซียและเจ้าหน้าที่ไทย