‘สำนักงบประมาณ’ เผยผลประเมินโครงการ ‘บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน’ พบผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ 'พอใจมาก' แม้มีปัญหาเน็ตช้า-สัญญาณไม่เสถียร หนุน ‘ดีอีเอส’ ทำโครงการต่อเนื่อง เสนอโอนระบบฯที่ติดตั้งแล้วให้ ‘องค์กรในพื้นที่’ ดูแล
.....................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา กองประเมินผล สำนักงบประมาณ เผยแพร่รายงานการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์จากการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน หรือโครงการให้บริการอินเทอร์เน็ตพร้อมบริการ Wi-Fi โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแก่ชุมชน 8,246 จุดทั่วประเทศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการระหว่างปีงบ 2562-2565 ทั้งสิ้น 705.62 ล้านบาท จากงบที่ได้รับจัดสรร 1,317.81 ล้านบาท
ผลปรากฏว่า จากการเก็บรวบรวมข้อมูลแบบสอบถามประชาชนผู้ใช้บริการ 5,000 คน พบว่า ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ หรือ 2,295 คน หรือคิดเป็น 45.90% มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตสาธารณะชุมชนเป็นบางครั้ง ขณะที่อีก 1,577 คนหรือ 31.54% มีการใช้เป็นประจำ โดยผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะชุมชน มีความพึงพอใจอยู่ระดับมาก แม้ว่าจะมีปัญหาในการใช้บริการในบางครั้ง เช่น สัญญาณหลุดบ่อย สัญญามีการขาดๆหายๆ แต่ก็เป็นการบริการที่ไม่มีค่าใช้จ่าย
ขณะที่วัตถุประสงค์การใช้งานของประชาชนผู้ใช้บริการ พบว่า 4,085 คน หรือคิดเป็น 81.70% ใช้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ รองลงมา 2,166 คน หรือคิดเป็น 43.32% ใช้เรียนออนไลน์ ,อันดับสาม 1,636 คน คิดเป็น 32.72% ใช้ในกิจกรรมเพื่อความบันเทิง เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ,อันดับสี่ 1,584 คน หรือคิดเป็น 31.78% ใช้ติดตามข่าวสารบ้านเมือง และอันดับห้า 1,230 คน คิดเป็น 24.60% ใช้ในการติดต่อสื่อสารภายในครอบครัว/ญาติ/เพื่อน เป็นต้น
สำหรับปัญหาและอุปสรรคนั้น จากการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการฯ 5,000 คน พบปัญหาและอุปสรรคของโครงการมากที่สุด คือ สัญญาณอินเทอร์เน็ตช้า คิดเป็น 54.80% รองลงมา คือ สัญญาณไม่เสถียร (สัญญาณหลุดบ่อย ขาดๆ หายๆ) คิดเป็น 31.04% ส่วนปัญหาที่ผู้ตอบแบบสอบถามพบน้อยที่สุด คือ ใช้ประชุมออนไลน์ไม่ได้ หรือคิดเป็น 5.56% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด
นอกจากนี้ จากการเก็บข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลจุดให้บริการในพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 2,400 คน พบปัญหาและอุปสรรค 6 ด้าน ได้แก่ 1.ไม่สามารถประชาสัมพันธ์โครงการได้มากเท่าที่ควรเนื่องจากป้ายสัญลักษณ์การให้บริการอินเทอร์เน็ตไม่มีความน่าสนใจ 2.หากมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก จะทำให้สัญญาณช้าจนไม่สามารถใช้ได้ 3.พื้นที่ให้บริการยังไม่ครอบคลุมทำให้ไม่สะดวกในการใช้จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง และสัญญาณไม่เสถียร
4.การสมัครเข้าใช้งานมีความยุ่งยาก 5.หลังติดตั้งไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลสัญญาณ และช่างเข้ามาแก้ไขปัญหาเกิดเหตุขัดข้องล่าช้า ไม่ทันต่อการใช้งาน บางครั้งฝนตกสัญญาณไม่เสถียร และไม่สามารถติดต่อกับช่างที่เคยติดต่อไว้ได้ และ 6.ผู้ดูแลจุดให้บริการไม่สามารถใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตของโครงการกับกล้องวงจรปิดได้ หากใช้อินเทอร์เน็ตของ @TH Wi-Fi by MDES จะไม่สามารถเปิดเว็บไซต์ระบบเชื่อมโยงแหล่งการเรียนรู้บางแหล่งได้
สำนักงบประมาณ ยังมีข้อเสนอแนะไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ในส่วนของข้อเสนอแนะเชิงนโยบายนั้น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรกำหนดแผนส่งเสริมโครงการบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากผลลัพธ์ของโครงการประชาชนผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการโครงการฯ เพื่อสร้างรายได้และลดค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
อีกทั้งหากมีโครงการที่เกี่ยวกับการให้บริการอินเทอร์เน็ต หน่วยงานควรมีแผนการจัดอบรมเกี่ยวกับการบำรุงรักษา และแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในเบื้องต้นด้วย
ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติ ได้แก่ 1.ควรเพิ่มการประสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารโครงการมากขึ้น อีกทั้งป้ายสัญลักษณ์การให้บริการอินเทอร์เน็ตควรเปลี่ยนให้สังเกตเห็นได้ง่าย 2.ควรเพิ่มความเร็วของสัญญาณให้มากกว่าเดิม เนื่องจากหากมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก จะทำให้สัญญาณช้าจนไม่สามารถใช้งานได้ 3.ควรขยายสัญญาณให้มีระยะรัศมีกว้างขึ้น พร้อมปรับปรุงให้สัญญาณมีความเสถียรมากขึ้น
4.ควรปรับปรุงการสมัครเข้าใช้งานให้ง่ายขึ้น 5.ควรส่งเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลมาติดตามการใช้งานสัญญาณอย่างสม่ำเสมอ และควรมีเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลระบบเข้ามาแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดเหตุขัดข้องให้รวดเร็วขึ้น 6.สัญญาณอินเทอร์เน็ตของโครงการควรใช้ประโยชน์ได้หลากหลายกว่านี้เพราะปัจจุบันจุดติดตั้งอินเทอร์เน็ตต้องติดตั้งกล้องวงจรปิด แต่ไม่สามารถใช้สัญญาณ Wi-Fi อินเทอร์เน็ตของโครงการเข้าไปดูในกล้องวงจรปิดได้
ส่วนข้อเสนอแนะด้านงบประมาณ ได้แก่ 1.ปัจจุบันการบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐภาคเอกชนแต่อาจมีข้อจำจัดในการเข้าใช้บริการ ควรมีการดำเนินการในลักษณะการบูรณาการร่วมกัน อาจมีข้อตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงาน/องค์กร บริเวณที่มีจุดติดตั้งเพื่อที่จะเข้าใช้บริการร่วมกัน รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการเช่าใช้บริการควรมีการบริหารจัดการร่วมกันเพื่อประหยัดงบประมาณของหน่วยงาน/องค์กร
2.งบประมาณดำเนินการตามโครงการดังกล่าว รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายมาตั้งแต่ปีงบ 2562-2565 ซึ่งโครงการดังกล่าวมีประโยชน์อย่างมากต่อประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ควรที่หน่วยงานในพื้นที่/องค์กร จะดำเนินการต่อและเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเองทั้งหมด และ3.ถ้าหากมีการจัดสรรงบประมาณลักษณะโครงการดังกล่าวควรมีความชัดเจนในทุกๆด้าน ก่อนที่จะเสนอคำขอรับการจัดสรรงบฯ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
อ่านฉบับเต็ม : โครงการบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน