ป.ป.ช.แถลงชี้มูล ผกก.โจ้ร่ำรวยผิดปกติ ส่งสำนวนอัยการขอยึดทรัพย์ 1,358 ล้าน หลังชี้แจงที่มาไม่ได้ พบเงินฝาก 3 บัญชี 1,243 ล้าน เช่าซื้อรถอีกเพียบรวม 15 คัน-เล็งสอบปมสินบนรางวัลนำจับรถหรูต่อ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช.ได้แถลงข่าวชี้มูลกรณี พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ หรือผู้กำกับโจ้ มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ โดยรายละเอียดการแถลงข่าวนั้นระบุว่าหลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้รายงานข่าวว่าผู้กำกับโจ้มีบ้านหรู พร้อมสระว่ายน้ำที่ย่านรามอินทรา พร้อมกับรถหรูมูลค่ารวมกว่าร้อยล้านบาท ป.ป.ช.จึงได้มีการสืบข้อมูลเพิ่มเติมโดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์นั้นอาจมีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ จึงมีการไต่สวนข้อเท็จจริงจนพบว่ามีทรัพย์สินต่าง ๆ เงินผ่อนรถยนต์นั้นไม่สัมพันธ์กับรายได้
นายนิวัติไชยกล่าวต่อว่าทรัพย์สินที่ถูกระบุว่าร่ำรวยผิดปกติ ชี้แจงที่มาไม่ได้ และถูกขอให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินนั้นพบว่ามีทั้งสิ้น 32 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,358 ล้านบาท โดยทรัพย์ที่ว่านี้ประกอบไปด้วยเงินฝากในบัญชีธนาคาร 3 แห่งคิดเป็นมูลค่า 1,243 ล้านบาท บ้าน 2 หลังพร้อมที่ดินรวม 5 ไร่ มีมูลค่ารวมกว่า 54 ล้านบาท รถยนต์ 15 คันอาทิ ปอร์เช่, ออร์ดี้, เบนซ์ มีมูลค่ากว่า 6.1 ล้านบาท และหนี้สินที่ลดลงจากการผ่อนชำระตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์อีกจำนวน 13 คันอาทิ ปอร์เช่ 2 คัน, ฟอร์ด, เฟอร์รารี่ ที่ผิดปกติมูลค่า 53 ล้านบาท
เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวต่อว่าการดำเนินการที่ผ่านมานั้น หลังจากที่ชี้มูล ป.ป.ช.ได้การส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดเพื่อให้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภายในเขตอำนาจที่มีความรับผิดชอบ และเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมาอัยการสูงสุดโดยพนักงานอัยการก็ได้มีการยื่นเรื่องต่อศาลอาญาฯแล้วเช่นกัน โดยตามหลัก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. ในปี 2561 นั้นได้ให้อำนาจแก่ ป.ป.ช.ในการที่จะติดตามทรัพย์ได้นานถึง 10 ปี เพื่อป้องกันในกรณีที่ฝ่ายผู้ต้องหานั้นอาจจะโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินไป
นายนิวัติไชยกล่าวต่อไปว่าหลังจากที่ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลในข้อหาร่ำรวยผิดปกติแล้ว ป.ป.ช.ก็จะมีการส่งเรื่องไปให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อจะให้ดำเนินการในส่วนที่เกียวข้องต่อไป
“สำหรับกรณีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ขอเบิกจ่ายเงินรางวัลสินบนนำจับต่อกรมศุลกากรจากกรณีการนำจับรถหรูนำเข้าราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฏหมายนั้น ทาง ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์มีพฤติกรรมกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการด้วย ป.ป.ช.จึงได้นำเรื่องมาพิจารณา โดยจะพิจารณาในประเด็นว่าการจับกุมรถหรูกระทำโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นคดีอาญาอีกคดีหนึ่ง นอกจากคดีซ้อมทรมานผู้ต้องหาจนเสียชีวิตก่อนหน้านี้เช่นกัน” นายนิวัติไชยกล่าว
อย่างไรก็ดี คดีนี้การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
อ่านประกอบ:
- คำสั่ง ผบ.ตร.ให้‘ผู้กำกับโจ้’ออกจากราชการ-ใบรับรอง รพ.อ้างผู้ต้องหาตายจากพิษแอมเฟตามีน
- เปิดมุมมองกม. 'สิทธิผู้ถูกจับกุม' เทียบกรณีคลุมถุงดำรีด 2 ล. 'เถยจิต' โจร ในคราบ ตร.
- ป.ป.ช.ภาค 6 ขอเร่งรัดมติส่วนกลางไต่สวน คดี 'ผกก.โจ้' - จนท.ยักยอกเงินโควิด 12.7 ล.
- นิ้วไหนไม่ดี ต้องตัดทิ้ง! ผบ.ตร.สอบวินัย-อาญา'ผู้กำกับโจ้'จ่อให้ออกจากราชการ
เรื่องเกี่ยวข้องคดีรถหรู:
- ตามส่อง บ.ศรณรงค์ฯ คดีสำแดงราคานำเข้า ‘เฟอร์รารี่’ สภาพปัจจุบันเหลือแค่ตึกเก่า
- เปิดเอกสาร บ.ศรณรงค์ฯ คดีสำแดงราคานำเข้า ‘เฟอร์รารี่’เท็จ เป็นใคร?
- คำพิพากษาคดีสำแดงนำเข้า ‘เฟอร์รารี่’ เท็จ บ.ศรณรงค์ฯกับพวก ปรับ 1.6 ล. ริบรถ
- พลิกธุรกิจ 13 บ.เสี่ยรง.แป้งมัน ผู้ครอบครอง ลัมโบร์กินี ‘ผู้กำกับโจ้’
- ผกก.โจ้'โดม' แจงลัมโบร์กินี สั่งประกอบนอก ไม่เกี่ยว บ.เบนซ์นครินทร์ - ผกก.โจ้
- ไม่ใช่แค่ ลัมโบร์กินี ผกก.โจ้! กก.สาว รง.แป้งมัน ถือครองรถหรู 1 คัน
- รถหรู20 คัน ดีเอสไอถอนอายัด 'นักธุรกิจ -นาย ตร. -ดาราดัง' ครอบครอง
- ลัมโบร์กินี‘ผู้กำกับโจ้’ คนถือครองล่าสุด นักธุรกิจ รง.แป้งมันสำปะหลัง
- ลัมโบกินี สีส้ม! คันที่3 ดีเอสไอ ถอนอายัด - บ.เบนซ์นครินทร์ฯ นำเข้า
- ตามไปดู3 เอกชน ผู้นำเข้า ‘ลัมโบร์กินี’ ผู้กำกับโจ้ - เหลือแค่ป้ายชื่อบริษัท?
- ‘ลัมโบร์กินี’ ผู้กำกับโจ้! ที่แท้ บ.เบนซ์นครินทร์ฯ - พวก นำเข้า
- อัยการไม่สั่งริบ! ดีเอสไอแจงปม คืน‘ลัมโบร์กินี’ ของกลางคดีรถหรู ก่อน ‘ผกก.โจ้’ เจ้าของ
- เปิดหนังสือถอนอายัด‘ลัมโบร์กินี’ คดีนำเข้ารถหรู ลอตเดียว ‘ผู้กำกับโจ้’
- เบื้องหลัง‘ลัมโบร์กินี’ ผู้กำกับโจ้ ดีเอสไอถอนอายัด หลังอัยการฝ่ายฯ มีความเห็นทางคดี
- ส่ง อสส.แล้ว! ดีเอสไอแถลงคดีรถลัมโบกินี‘ผกก.โจ้’เลี่ยงภาษี-รัฐเสียหาย 31 ล.