ปปง.ส่งสํานวน 2 คดีค้ามนุษย์-ทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตํารวจพัทลุง ให้อัยการขอให้ศาลมีคําสั่งคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย หลังยึดอายัดทรัพย์แล้ว 43 รายการ 149 ล.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 นายเทพสุ บวรโชติตารา รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า คณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 มีมติให้เลขาธิการ ปปง. ส่งสํานวนคดีไปยังพนักงานอัยการเพื่อยื่นคําร้องขอให้ศาลมีคําสั่งให้นําทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิด ไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย (การคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย) โดยมีคดีสําคัญสรุปดังนี้
1. รายนายสุวันนาฯ กับพวก ซึ่งเป็นคดีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ มีการยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ การกระทําความผิด จํานวน 1 รายการ ราคาประเมิน 850,000 บาท และดําเนินการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย จํานวน 6 ราย
2. รายนางสาวเพ็ญศิริฯ กับพวก ซึ่งเป็นคดีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ มีการยึดและอายัต ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิด จํานวน 6 รายการ ราคาประเมิน 7,720,720.35 บาท และดําเนินการ คุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย จํานวน 3 ราย
3. นางสาวสุภาฯ กับพวก กรณีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตํารวจพัทลุง จํากัด ซึ่งเป็นคดีความผิดมูลฐาน ปลอมเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ตาม ประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ มีการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิด จํานวน 43 รายการ ราคาประเมิน 149,088,112.88 บาท และดําเนินการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย จํานวน 1 ราย
@เทพสุ บวรโชติตารา
รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมว่า สําหรับกรณีการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในคดี ค้ามนุษย์ดังกล่าวเป็นการดําเนินการตามระเบียบคณะกรรมการธุรกรรม ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย ในความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 ซึ่งมีหลักการโหม่ กําหนดให้มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างสํานักงาน ปปง. กับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการประสานความร่วมมือเพื่อขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับความเสียหาย ค่าสินไหมทดแทน ผู้มีสิทธิได้รับ และสถานะของการดําเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การค้ามนุษย์ โดยเป็นหลักการที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลดีในการช่วยยกระดับการจัดอันดับการค้ามนุษย์ (Tier) ของประเทศไทย ให้อยู่ในระดับที่ดียิ่งขึ้น
"สํานักงาน ปปง. จึงได้มุ่งเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อนําไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดมูลฐานต่าง ๆ อันเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมเกี่ยวกับการกระทําความผิดมูลฐาน และตัดเส้นทางการเงินของผู้กระทําความผิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้อง กับมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงิน แก่การก่อการร้าย"รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง.ระบุ