‘ศรัณย์’ ส.ส.เพื่อไทย ซักฟอก รมว.ดีอีเอส บกพร่องแก้ปมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ – เว็บพนันเกลื่อนเมือง คนเดือดร้อนเป็นแสนล้าน จี้ลงทุนระบบแก้ปัญหา ถามรัฐใช้ ‘เพกาซัส’ สอดแนมประชาชนครั้งละ 1 ล้านแพงกว่าหรือไม่ ด้าน ‘ชัยวุฒิ’ รับสปายแวร์มีจริง แต่ไม่อยู่ในอำนาจดีอีเอส ใช้งานด้านความมั่นคง-ยาเสพติด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2565 สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวม 11 คน ตามที่ ส.ส.ฝ่ายค้านเสนอ ภายใต้ยุทธการณ์ ‘เด็ดหัว สอยนั่งร้าน’ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 ก.ค.2565
เมื่อเวลาประมาณ 22.25 น. นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รวมถึง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เกี่ยวกับประเด็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ค้ามนุษย์ เว็บพนัน ขายของออนไลน์ หลอกลงทุน แม้กระทั่งข้อความหลอกประชาชนลงทะเบียนปลูกกัญชา ทำให้ประชาชนเสี่ยงภัย และเสี่ยงที่จะสูญเสียทรัพย์สินมากมาย แต่ พล.อ.ประยุทธ์ และนายชัยวุฒิ ยังมุ่งใช้อำนาจเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐบาล แต่ไม่ใช่เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
นายศรัณย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพยายามหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ นายชัยวุฒิ ทำอะไรบ้างเพื่อช่วยเหลือประชาชน เพราะแทบไม่มีข้อมูล นอกจากนั้นยังไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบกับความเสียหายของประชาชน จึงเป็นสาเหตุที่ไม่สามารถไว้วางใจได้
ต่อมา นายชัยวุฒิ ชี้แจงว่า อาชญากรรมออนไลน์ไม่ได้เกิดเฉพาะประเทศไทย แต่เกิดกับทุกประเทศที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตมากๆ ที่สำคัญไทยมีปัญหาหนักเพราะเรามีระบบอินเทอร์เน็ตที่ดีมากๆ ใช้แพร่หลายมาก โดยใช้ไม่ต่ำกว่า 80% ของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลไทยแลนด์ 4.0 ส่วนเรื่องการหลอกลวงก็มีกันมาตั้งแต่ในอดีต รัฐบาลเข้าใจและเร่งแก้มาโดยตลอด มีการตั้งหน่วยงาน และที่บอกว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย คือ การพูดไม่ดูข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามยอมรับว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นเรื่องใหญ่ มีคนมาร้อนเรียนตลอด บางคนหมดเนื้อหมดตัว ซึ่งได้ประสานกับสํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ส่วนที่เป็นการโทรผ่านอินเทอร์เน็ตจากต่างประเทศ แม้รู้ว่าเป็นจุดไหนและขอคำสั่งศาลปิด ก็พบว่ามีการเปิดจุดใหม่ขึ้นอีก จึงประสาน กสทช.ให้ขึ้นเครื่องหมายบวกเป็นรหัสประเทศเพื่อให้ประชาชนรู้ว่าเป็นเบอร์ที่มาจากต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีและทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หากอยู่ในประเทศ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เมื่อฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน บางคนโดนหลอกไป บางคนก็สมัครใจ แต่ผิดทุกคนเพราะลักลอบออกและเข้าเมือง ซึ่งปัจจุบันหากสืบจนรู้จุดจะออกหมายจับ พร้อมขอบคุณนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและรัฐบาลไทยที่ประสานงานกัน เชื่อว่าจะลดปัญหานี้ได้ในที่สุด พร้อมฝากเตือนประชาชนว่าการตามเงินคืนนั้นยาก ขอคิดให้ดีก่อนโอน ส่วนการปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายก็ดำเนินการมาตลอดเช่นกัน
นอกจากนี้ นายศรัณย์ อภิปรายเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมามีการตั้งหน่วยงานขึ้นมาจัดการปัญหา แต่สำคัญคือไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ แล้วประชาชนจะได้อะไร นอกจากนั้นยังมีอีกเรื่อง คือ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับระบบการป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์มันแพง แต่ปัญหาที่เกิดกับประชาชนมูลค่าความเสียหาย 2-3 แสนล้านบาท ถือว่าแพงหรือไม่ ล่าสุดที่มีการเปิดเผยข้อมูลว่ารัฐบาลใช้สปายแวร์สอดแนมประชาชนของตัวเองที่เรียกว่า เพกาซัส ที่การใช้งานครั้งหนึ่งมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ถือว่าแพงหรือไม่ ถ้านายชัยวุฒิ บอกว่า ถ้าปิดแล้วเขาจะเปิดใหม่ แล้วจะทำอย่างไรต่อไป รวมถึงเว็บพนันที่บอกว่าปิดอยู่เรื่อยๆ แต่มาบางเว้บที่เปิดแล้วไม่ปิดสักที ทำให้คนสงสัยว่าทำไมไม่ปิด เป็นเรื่องที่ต้องเคลียร์กับประชาชน
ทำให้นายชัยวุฒิ ชี้แจงอีกครั้งว่า สำหรับเรื่องสปายแวร์เพกาซัส ที่มีการอ้างว่าเข้าไปสอดแนมในโทรศัพท์ แล้วจะรู้เหมือนดูหน้าจอ การสนทนา การส่งข้อความทั้งหมด ตนรู้ว่ามีจริง ศึกษาอยู่ ซึ่งดีอีเอสไม่ใช่คนทำเรื่องนี้ เพราะไม่มีอำนาจ แต่เท่าที่ทราบ จะมีงานด้านความมั่นคง ด้านยาเสพติด ต้องจับคนร้าย ต้องดักฟังว่าจะส่งยาที่ไหนอย่างไร เข้าใจว่ามีการใช้ลักษณะแบบนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีข้อจำกัดมาก เพราะต้องเป็นเรื่องเกี่ยววกับคดีพิเศษหรือคดีสำคัญ อย่างไรก็ตามดีอีเอสไม่ใช่หน่วยงานที่ตนรับผิดชอบ แต่มันมีอำนาจแบบนั้นที่ทำได้ ทั้งนี้ตามอำนาจรัฐบาลที่ให้กับดีอีเอส ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไม่มีอำนาจเกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามหากเราจะก้าวไปอีกขั้น ก็ต้องมีการปรับปรุงกฎหมาย เพื่อให้ปิดเว็บได้เร็วขึ้น ปิดได้จริง ก็ต้องมีการปรับปรุงระบบ กฎหมายในการทำงานต่อไป และขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทำคดีจำนวนมาก และมีผลสำเร็จมากด้วยเช่นกัน แต่หากจะยกมาพูดแค่คดีที่ไม่สำเร็จ การค้นหาอวตารในโซเชียลมีเดีย ไม่ได้หาตัวง่าย บางคนเป็นนักโทษหนีอยู่ต่างประเทศ ไม่กลับมาก็จับไม่ได้ อยากให้ความเป็นธรรมตำรวจและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องด้วย
ข่าวประกอบ :
- อภิปรายไม่ไว้วางใจ : ‘ก้าวไกล’ ซัด MR-MAP ไม่คุ้มลงทุน ‘ศักดิ์สยาม’ รวบยอดแจงพรุ่งนี้
- อภิปรายไม่ไว้วางใจ : 'ณัฐชา'ซัด'จุติ'ตั้งคนสนิทนั่งบอร์ด กคช.แฉพิรุธโครงการเคหะสุขประชา
- Highlight :‘นิคม’ VS.'สุชาติ' ปมค่าหัวคิวแรงงาน-ใช้เงินประกันสังคมปั่นหุ้นเอื้อธุรกิจ