'สิงคโปร์'เคาะจัดหาวัคซีนบูสเตอร์ป้องกันโควิดสายพันธุ์โอไมครอน หลัง สธ.คาดสัปดาห์หน้าสายพันธุ์ BA.4,ฺBA.5 ระบาดเป็นหลัก คาดได้รับไม่เกินปลายปี-ด้าน รมต.สธ.วอน ปชช.อย่ารอวัคซีน แนะเร่งไปฉีดบูสเตอร์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสในต่างประเทศว่ามีรายงานว่ากระทรวงสาธารณสุขประเทศสิงคโปร์นั้นเตรียมที่จะนำเอาวัคซีนในรุ่นที่มีศักยภาพเจาะจงต่อโควิดโอไมครอนเพื่อนำมาฉีดบูสเตอร์ป้องกันการระบาดในประเทศแล้ว หลังจากที่คาดกันว่าไวรัสโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยนั้นกำลังกลายเป็นสายพันธุ์ที่มีการระบาดอย่างโดดเด่นในประเทศ
โดยโฆษกของกระทรวงฯได้กล่าวตอบคำถามของผู้สื่อข่าวสำนักข่าวสเตรทไทม์สว่าทางกระทรวงฯ โดยหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 นั้นกำลังร่วมกันพิจารณาถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งจะมีศักยภาพหวังผลต่อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน
“มีการเตรียมการเพื่อจะจัดหาวัคซีนเหล่านี้พร้อมกับมีการดำเนินการเพื่อที่จะออกคำแนะนำการใช้งานวัคซีนแล้ว” โฆษกกระทรวงฯกล่าว
อนึ่งเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น บริษัทโมเดอร์นาได้มีการออกผลการศึกษาถึงวัคซีนบูสเตอร์ของบริษัทในรุ่นที่มีการอัปเดตแล้ว ซึ่งผลการศึกษาพบว่าวัคซีนดังกล่าวนั้นมีประสิทธิภาพที่ดีในการป้องกันโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5
ขณะที่ประเทศสิงคโปร์นั้นมีรายงานว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวนกว่าครึ่งหนึ่งนั้นพบว่าเป็นผู้ที่ติดไวรัสโควิดสายพันธุ์ย่อยดังกล่าว โดย นายออง เย คุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้แถลงการณ์ต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมาว่าเขาคาดว่าในสัปดาห์หนังจากนี้สัดส่วนผู้ติดโควิดสายพันธุ์ย่อยดังกล่าวนี้จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 70-80 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ในข่าวของนิวยอร์กไทม์สเมื่อเดือนที่ผ่านมานั้นระบุว่าองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาหรือว่า FDA ได้ออกคำแนะนำให้ผู้ผลิตวัคซีนดำเนินการผลิควัคซีนในประเภทไบวาเลนท์ (วัคซีนที่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสมากกว่าหนึ่งสายพันธุ์ในโดสเดียว) เพื่อรับมือต่อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยทั้ง BA.4 และ BA.5 และรับมือต่อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม โดย FDA ระบุต่อไปว่าการจับคู่กันระหว่างวัคซีนป้องกันไวรัสโควิดที่มีอยู่ในปัจจุบันและไวรัสโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยดังกล่าวนี้จะทำให้มีภูมิคุ้มกันที่ทนทานมากขึ้นและอยู่ได้ยาวนานมากขึ้นต่อไวรัสโควิดสายพันธุ์ที่กำลังหมุนเวียนอยู่ ณ เวลานี้
โดยบริษัทไฟเซอร์นั้นระบุว่าคาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีนที่พาะเจาะจงต่อสายพันธุ์ไวรัสได้ภายในช่วงต้นเดือน ต.ค. และโมเดอร์นาก็คาดว่าจะผลิตวัคซีนดังกล่าวได้ภายในปลายเดือน ต.ค.-ต้นเดือน พ.ย.
ขณะที่นายอองก็ได้แถลงเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมาว่าทั้งสองบริษัทนั้นจะเริ่มกระบวนการให้ประเทศสิงคโปร์ได้รับวัคซีนได้เมื่อทั้งสองบริษัทมีความพร้อมแล้ว
“ณ ตอนนี้สัญญาที่เรามีกับบริษัททั้งสองแห่งนั้นทำให้เราสามารถจะรับการส่งมอบและนำวัคซีนเหล่านี้ไปใช้ได้เมื่อมันมีความพร้อมแล้ว ซึ่งคาดว่าก็น่าจะปลายปีนี้ ถ้าหากมีการอนุมัติ ถ้าหากข้อมูลนั้นแสดงให้เห็นว่ามันมีความเหมาะสม และเราได้รับการส่งมอบแล้ว
แต่ผมควรต้องเน้นย้ำว่าอย่าไปรอวัคซีนที่ว่ามานี้จนทำให้คุณไม่ยอมไปฉีดวัคซีนบูสเตอร์ เพราะวัคซีนในสูตรที่เรามีอยู่นั้นก็สามารถจะรับมือได้ค่อนข้างดีในการป้องกันไม่ให้คุณมีอาการป่วยหนัก ดังนั้นอย่ารอช้าที่จะไปฉีดวัคซีนบูสเตอร์ของคุณ” นายอองกล่าว
เรียบเรียงจาก:https://www.straitstimes.com/singapore/arrangements-in-place-for-spore-to-secure-booster-vaccines-for-omicron-subvariants