สธ.จัดมหกรรมใหญ่ 'กัญชา 360 องศาฯ' ที่บุรีรัมย์ 10-12 มิ.ย.นี้ นับถอยหลังรับปลดล็อกจากยาเสพติด-ปลูกในครัวเรือนได้ พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจการใช้อย่างถูกต้องในทุกมิติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2565 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายขับเคลื่อนการใช้กัญชา กัญชงเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เสริมรายได้ประชาชนและสร้างเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ
สธ.จึงออกประกาศปลดล็อกกัญชา กัญชงออกจากยาเสพติดให้โทษ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 แต่ยังควบคุมสารสกัดที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท คือ สารสกัดที่มีค่าทีเอชซี (THC) มากกว่า ร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก
ที่ผ่านมา ได้เร่งสร้างความรู้และความเข้าใจการใช้กัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้แก่ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2564 มีการจัดงานมหกรรมกัญชากัญชง 360 องศา เพื่อประชาชน ที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจด้านกัญชาทางการแพทย์ กัญชาเพื่อเศรษฐกิจ และเพิ่มการเข้าถึงการให้บริการกัญชาทางการแพทย์แก่ผู้ป่วย ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างมาก มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 30,000 คน
ในวันที่ 9 มิ.ย. 2565 นี้ กฎหมายปลดล็อกกัญชากัญชงออกจากยาเสพติดจะมีผลบังคับใช้ ดังนั้น ประชาชนจะต้องมีความรู้ใช้กัญชาอย่างเข้าใจ เพื่อไม่ให้เกิดผลเสีย คือ 1.เพื่อการรักษาโรค เช่น ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคลมชัก และทำเป็นยาเข้าตำรับกัญชา คลินิกกัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาโรคโดยแพทย์ได้ 2.ความรู้ความเข้าใจเรื่องผลเสีย เพราะการใช้ในปริมาณที่มากเกินกว่าที่กำหนดไว้ หรือใช้ในทางที่ผิดก็จะเป็นโทษต่อจิตประสาทได้
สธ.จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงาน 'มหกรรม 360 องศา ปลดล็อกกัญชา ประชาชนได้อะไร' ระหว่างวันที่ 10-12 มิ.ย. 2565 ที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน โดยเน้นย้ำเรื่องของการใช้อย่างถูกต้องและใช้อย่างเข้าใจ ไม่ให้เกิดการนำไปใช้ในทางที่ผิด
“ต้องรณรงค์สร้างความเข้าใจให้มากที่สุด เพื่อให้เกิดประโยชน์ สร้างเศรษฐกิจได้ อย่างเช่น ใบกัญชาขายได้ราคาสูง ก็เป็นเศรษฐกิจครัวเรือน ส่วนการปลูกเชิงพาณิชย์ ระดับ Medical Grade เพื่อการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ อาหาร เครื่องสำอาง สธ.จะมีการออกประกาศกระทรวงฯ เพื่อควบคุมการนำไปใช้ในทางที่ไม่เกิดประโยชน์ เช่น การสูบ การสันทนาการเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ที่จะเกิดปัญหา ซึ่งจะมีการควบคุมกลิ่นและควันใน พ.ร.บ.การสาธารณสุข ให้เป็นเขตรำคาญ หรือใช้การกัญชาที่มากกว่ากำหนดในประกาศปลดล็อกที่ยังเป็นยาเสพติด ซึ่งจะเป็นทาตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ช่วงนี้อยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านของกฎหมาย อย.จึงต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้ผู้ประกอบการและประชาชนในการปลูกแบบจดแจ้ง การขออนุญาตนำเข้าเมล็ดกัญชง การขออนุญาตสกัดสารทีเอชซี (THC) และสารซีบีดี (CBD) โดยงาน 'มหกรรม 360 องศา ปลดล็อกกัญชา ประชาชนได้อะไร' เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสารสู่ประชาชน ซึ่งในการจัดเมื่อปี 2564 ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีมาก
ทั้งนี้ อย.มีบทบาทหลักในการผลักดันกฎหมายกัญชามาตั้งแต่ต้น มีหน้าที่หลักในการสร้างความชัดเจนให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงกัญชาอย่างถูกต้อง ทั้งการปลูก การครอบครอง การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ การใช้ในครัวเรือน หรือการพัฒนาเป็นนวัตกรรมต่างๆ รวมถึงสร้างความเข้าใจเรื่องสรรพคุณและคุณประโยชน์ของกัญชาอย่างแท้จริง
ขณะนี้ อย.ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน 'ปลูกกัญ' เพื่อให้ประชาชนได้จดแจ้งและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกัญชาได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
“โดยหลังวันที่ 9 มิ.ย.นี้ ประชาชนสามารถจดแจ้งปลูกกัญชาได้ใน 3 ช่องทาง คือ 1) แอปพลิเคชั่น ปลูกกัญ ที่จะเปิดตัวในวันที่ 1 มิ.ย. 2565 และพร้อมออกใบรับจดแจ้งในวันที่ 9 มิ.ย. 2) เว็บไซต์ปลูกกัญ และ 3) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) /กรุงเทพมหานคร (กทม.) อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 มิ.ย.จะมีการอบรมเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เจ้าหน้าที่ อบจ./กทม. เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในกานจดแจ้งตามช่องทางต่างๆ” นพ.วิทิต กล่าว
ทางด้าน นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 กล่าวว่า เขตสุขภาพที่ 9 ได้ส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากรเพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับประชาชนได้อย่างเหมาะสม รวมถึงศึกษาและพัฒนาการใช้กัญชาทางการแพทย์มาโดยตลอด
การจัดงาน มหกรรม 360 องศา ปลดล็อกกัญชา ประชาชนได้อะไร สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดในเขตสุขภาพที่ 9 ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม ทั้งการให้บริการคลินิกกัญชา การให้บริการข้อมูลต่างๆ รวมถึงมีหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมนำเสนอสาระความรู้เรื่องกัญชาอย่างเต็มที่ จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจเข้าร่วมงาน
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการจัดงานมหกรรมกัญชา 360 องศาฯ เมื่อปี 2564 พบว่าเกิดเม็ดเงินสะพัดในจังหวัดกว่า 200 ล้านบาท และ จ.บุรีรัมย์ มีความพร้อมในการรองรับผู้ร่วมงานครั้งนี้ ทั้งเรื่องสถานที่ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งมีความสะดวกสำหรับผู้เข้าร่วมงานทุกคน
นอกจากนี้ จ.บุรีรัมย์ ยังเป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ในอำเภอเมือง ประชากรได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างทั่วถึง และการจัดงานดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด จึงมีความปลอดภัยทางสาธารณสุขในระดับสูง
นพ.พิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ภายในงานจะมีกิจกรรมและสาระความรู้เกี่ยวกับกัญชาในหลายมิติ ที่จะเกิดประโยชน์กับประชาชน ผู้ป่วย และผู้ประกอบการต่างๆ อาทิ การจัดนิทรรศการ ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ตำรับยาที่สกัดจากกัญชา ผลิตภัณฑ์จากกัญชา คลินิกกัญชาทางการแพทย์แบบบูรณาการให้บริการตรวจรักษาแก่ประชาชนที่มาร่วมงานโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
อีกทั้ง ยังมีเวทีสัมมนาวิชาการ โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศมาให้ความรู้ มีเมนูอาหารจากกัญชารสชาติดี ถูกสุขอนามัยและปลอดภัย รวมถึงมีบูธให้คำแนะนำการนำกัญชามาประกอบอาหารอย่างถูกวิธี และที่เป็นไฮท์ไลต์ของงานคือ การแจกต้นกล้ากัญชาวันละ 300 ต้น ให้ประชาชน