ปปง.อายัดทรัพย์ขบวนการค้ามนุษย์ชาวเมียนมา กลุ่ม‘กําพล ยอดแก้ว’ กับพวก เงินฝาก 20 บัญชี 4 ล. หลัง ตร.ภูธรบ้านมาบอํามฤตจับกุม แฉเส้นทางรับจากชายแดน ส่งต่อ จ.สุราษฎร์ฯ ปลายทางมาเลเซีย 65 คนถูกขังหลบซ่อนตัวในป่า ทนทุกข์ทรมานตลอดการเดินทาง 40 วัน ได้กินอาหาร 2 มือ หากเดินไม่ไหวจะถูกชาย 6 คนตีด้วยไม้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สํานักงาน ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.98/2565 ลงวันที่ 5 เม.ย.2565 เรื่อง อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) รายนายกําพล ยอดแก้ว กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทํา ความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ความผิดเกี่ยวกับ การเป็นสมาชิกอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมที่มีกฎหมายกําหนด เป็นความผิด และความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร ในชื่อบุคคลต่างๆ จำนวน 20 บัญชี ยอดเงินรวม 4,049,455.22 บาท หลังจากก่อนหน้านี้วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ปปง.มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.52/2565 ยึดทรัพย์สินนายกําพล ยอดแก้ว กับพวก ได้แก่ รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า จํานวน 1 คัน
คำสั่งอายัดทรัพย์ นายกําพล ยอดแก้ว กับพวก ระบุว่า เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 เจ้าพนักงานตํารวจได้ทําการจับกุมตัวนายกําพล ยอดแก้ว และนายเขมทัต ผาลี พร้อมชาวเมียนมา รวม 5 คน ซึ่งเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย นําตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบสวนพบว่านายกําพล ยอดแก้ว กับพวก ได้รับการว่าจ้างให้ไปรับชาวเมียนมาดังกล่าว จากกรุงเทพฯ เพื่อไปส่งที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นกลุ่มของผู้ต้องหา เป็นธุระจัดหาและเป็นผู้นํา การเดินทางพาไปโดยเรียกค่าใช้จ่ายในอัตราที่สูงมากตั้งแต่จํานวน 120,000 - 150,000 บาท และได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ในระหว่างเดินทางจากประเทศเมียนมา มายังประเทศไทยกลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้จัดให้มีการหลบซ่อนและขังเหยื่อไว้ เพื่อมิให้ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบ ต้องทนทุกข์ทรมานตลอดการเดินทาง ด้วยเท้าในป่าภูเขาตามเส้นทางธรรมชาติ
ขณะเดินทางด้วยรถนั้นเหยื่อก็ถูกจัดให้นั่งในลักษณะแออัดเบียดเสียด นานประมาณ 40 วัน ระหว่างนั้นได้รับประทานอาหารวันละ 2 มื้อ หากเดินไม่ไหวจะถูกชายเมียนมา จํานวน 6 คน ตีด้วยไม้ โดยจะมีกลุ่มบุคคลผู้กระทํารับช่วงต่อกันเป็นทอด ๆ ในระหว่างการเดินทางจากประเทศเมียนมา ข้ามไปยังประเทศไทยรวมประมาณ 65 คน เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นรัฐปลายทาง จนกระทั่ง ชาวเมียนมามาถูกจับกุมตัวที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 จากตรวจสอบพบว่าในช่วงระหว่าง เดือนพฤษภาคม 2564 ถึงวันที่ 6 กันยายน 2564 พบว่ามีการติดต่อกับกลุ่มขบวนการ มีการเชื่อมโยง เป็นเครือข่ายในการขนแรงงานต่างด้าวจากประเทศเมียนมา ส่งไปยังพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย เพื่อส่งข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซีย
พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายกําพล ยอดแก้ว กับพวก ในฐานความผิดสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดฐานค้ามนุษย์ ร่วมกันกระทําความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป หรือโดยสมาชิกองค์กรอาชญากรรม ร่วมกันนําหรือพาคนต่างด้าว เข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทําด้วยประการใด ๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่ คนต่างด้าว ให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ร่วมกันช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการจับกุมและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
มีรายละเอียดดังนี้
(ดูคำสั่งฉบับเต็มที่นี่ https://www.amlo.go.th/amlo-intranet/images/CommandHo_2565/99-2565.pdf)