เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'พิบูลย์ แพนพา' อดีตปลัดอำเภอหนองพอก ร้อยเอ็ด ตรวจรับเบิกจ่ายเงินซ่อมแซมอาคารที่ว่าการอำเภอ-บ้านพักข้าราชการ 3 หลัง เท็จ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษ 3 ปี 4 เดือน พวก 2 ราย โดนคนละ 2 ปี 2 เดือน 20 วัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายพิบูลย์ แพนพา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด กับพวก ตรวจรับและเบิกจ่ายเงินค่าซ่อมแซมอาคารที่ว่าการอำเภอและบ้านพักข้าราชการ รวม 3 หลัง โดยไม่มีการซ่อมแซมจริง
ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157 และ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องคดีนี้เองตั้งแต่ปี 2563
ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า นายพิบูลย์ แพนพา จำเลยที่ 1 เป็นปลัดอำเภอหนองพอกและได้รับแต่งตั้งจากนายอำเภอหนองพอกให้เป็นผู้รักษาราชการแทนนายอำเภอหนองพอกในลำดับที่ 1 ในกรณีที่นายอำเภอไม่อาจปฏิบัติราชการแทนได้ และมีคำสั่งอำเภอหนองพอก มอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบให้จำเลยที่ 1 เป็นหัวหน้าฝ่ายปกครองและพัฒนารองจาก นายอำเภอหนองพอกรับผิดชอบด้านการเงิน และบัญชี และจำเลยที่ 1 ได้รับการแต่งตั้ง เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุและเป็นประธาน กรรมการตรวจการจ้างเพื่อดำเนินการในการ จัดซื้อจัดจ้าง ในฐานะเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ พัสดุ จำเลยที่ 1 จึงเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบัง ทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่น โดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์ นั้นเสีย
การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 147 ตามฟ้องโจทก์
สำหรับจำเลยที่ 2 ดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอ มีอำนาจหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือนายอำเภอหนองพอกในการบริหารราชการของอำเภอหนองพอก และได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจการจ้างมีหน้าที่ตรวจรับการจ้างให้ถูกต้อง ครบถ้วนเป็นไปตามแบบรูปรายการละเอียดและข้อกำหนดใน สัญญา
จำเลยที่ 3 ดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี 4 มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเงินและบัญชีของอำเภอ หนองพอกและเป็นผู้ช่วยจำเลยที่ 1 เกี่ยวกับด้านการเงินและ บัญชี การที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 เป็น คณะกรรมการตรวจรับงานจ้างได้ตรวจรับงานจ้างอันเป็นเท็จ และนำเอกสารดังกล่าวไปประกอบการเบิกจ่ายเงินจากจังหวัด ร้อยเอ็ด
อันเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 เบียดบังเอาเงินงบประมาณส่วนที่เหลือ การกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงเป็นการ สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 ดังกล่าว
พิพากษาลงโทษ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 จำคุก 5 ปี จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 147 (เดิม) ประกอบมาตรา 86 จำคุก 3 ปี 4 เดือน
คำให้การของจำเลยทั้งสาม เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
จำเลยที่ 1 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน
จำเลยที่ 2 และที่ 3 คงจำคุกคนละ 2 ปี 2 เดือน 20 วัน
อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน
- ได้รอลงอาญาคุก3 ปี 4 ด.! ศาลอุทธรณ์ แก้โทษอดีตนายกฯ บ้านโตนด ใช้รถหลวงส่วนตัว
- แก้โทษ! ไม่รอลงอาญาคุก 1 ปี อดีตจนท.พัสดุ อบต.แม่ข้าวต้ม ละเว้นตรวจสอบเอกสารการเงิน
- ยืนโทษ! คุก 4 ปี ผู้รับเหมา ทุจริตสร้างโรงกำจัดขยะเทศบาลตำบลปากแพรก นครศรีฯ
- รอลงอาญา คุก 2 ปี 6 ด.! อดีตนายก อบต.พิมลราช ทุจริตเบิกค่าจ้างปรับสถานที่งานวันสงกรานต์
- ยืนโทษ! คุก 32 ปี 96 ด. อดีตนายก อบต.หนองขวาว จ่ายเงินเดือนมิชอบ
- ยืนโทษ คุก 4 ปี 24 ด.! อดีตรองนายก อบต.กมลา รับสารภาพทุจริตปรับปรุงกุโบร์