เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ประกิต พรจันทรารักษ์' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านโตนด สุโขทัย นำรถยนต์ราชการไปใช้ส่วนตัวแล้วประสบอุบัติเหตุโดยไม่รายงานตามระเบียบฯ ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ลดโทษจาก 5 ปี เหลือ 3 ปี 4 เดือน ได้รอลงอาญา -ป.ป.ช.ค้าน อสส.ไม่ฎีกาสู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายประกิต พรจันทรารักษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านโตนด อำเภอคีรีมาส จังหวัดสุโขทัย นำรถยนต์ทางราชการไปใช้ส่วนตัวแล้วประสบอุบัติเหตุ โดยไม่รายงานตามระเบียบฯ
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และ 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2560
ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ที่ตัดสินว่า นายประกิต พรจันทรารักษ์ จำเลย มีความผิดตามมาตรา 151 เมื่อเป็นความผิดอันเป็นบทเฉพาะแล้ว ไม่จำเป็นต้องปรับบทตามมาตรา 157 อันเป็นบททั่วไปอีก
ลงโทษจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา
เป็น ลงโทษจำเลย จำคุก 5 ปี และปรับ 30,000 บาท
ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 มีมติไม่เห็นชอบกรณีที่ อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกา คำพิพากษาศาลอุทธรณ์
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ