กรมป่าไม้ ลุยตรวจเคสเปิดหน้าดินเขาหัวโล้นจุดชมวิวเสม็ดนางชี สกัดจนท.ฮั้วนายทุนรุกป่าสร้างปัญหาชาวบ้าน-ดีเอสไอเร่งสอบเชิงลึกคุ้ยสาระบบที่ดิน อธิบดีชี้ทราบผลภายใน 15 วัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2565 นายนฤเศรษฐ์ แก้วคง ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปราม 4 (ภาคใต้) กรมป่าไม้ นายสมชาย จิตรหลัง ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปราม สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 (กระบี่) นายประวิทย์ ช่วยหมุด ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้จังหวัดพังงา พร้อมกำลังหน่วยป้องกันและรักษาป่าในพื้นที่จังหวัดพังงา เข้าสืบสวนสอบสวนกรณีร้องเรียนการเปิดหน้าดินตั้งแต่ชั้นล่างภูเขาซึ่งติดกับทางหลวงชนบทช่วง บ้านหล่อยูง-บ้านคลองเคียน ในพื้นที่ ม. 2 บ้านหินร่ม ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา จนกระทั่งถึงพื้นที่ยอดเขาที่มีความลาดชันมาก
โดยสภาพที่ดินที่ถูกเปิดหน้าดินมีการเว้นระยะไม้ยืนต้นไว้ประปราย ด้านหน้าเขาเป็นจุดชมวิวชื่อดังของจังหวัดพังงา ที่เรียกว่า “เสม็ดนางชี” ซึ่งช่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ยังคงมีเครื่องจักรกลหนักทำงานต่อเนื่องมีทั้งรถแบ็คโฮ และรถบรรทุกขนขุดขนย้ายหน้าดิน (ดูภาพประกอบ)
ในวันเดียวกัน ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาตะกั่วทุ่ง นายศุภชัย คำคุ้ม ผู้อำนวยการศุนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษพื้นที่ 8 พร้อมกับนายสุรินทร์ เครื่อหงษ์ เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการพิเศษ และคณะเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษพื้นที่ 8 ได้ เข้าพบนายวัฒนา ณ นคร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาตะกั่วทุ่ง เพื่อขอสาระบบที่ดินที่มีการกล่าวอ้างว่าพื้นที่ที่เปิดหน้าดินตรงจุดชมวิวเสม็ดนางชีดังกล่าว มีเอกสารสิทธิ์จำนวนหนึ่ง เป็น นส. 3 ก. 4 แปลง เป็นโฉนดที่ดิน 3 แปลง แต่พื้นที่ที่เปิดหน้าดินที่ล้ำเข้าไปในพื้นที่ป่าอีกจำนวนหนึ่งตามระวางที่ดิน ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าว เป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยอ้างอิงภาพถ่ายทางอากาศชื่ออำเภอถลาง
ขณะที่ก่อนหน้านี้ คณะพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษนำโดย พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน นายพิเชษฐ์ ทองศรีนุ่น และนายชยพล สายทวี ได้เคยสืบสวนสอบสวนพบการกระทำความผิดในการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ป่าในพื้นที่ ตำบลคลองเคียน และตำบลหล่อยูง พบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐออกเอกสารสิทธิ์มิชอบทับป่าในพื้นที่ใกล้เคียงในการเปิดหน้าที่ดินในครั้งนี้แล้ว และส่งสำนวนการสอบสวนชี้มูลความผิดไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อปี 2560 และ 2561 ซึ่งสำนวนยังคงอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน ของ ป.ป.ช.
แหล่งข่าวในพื้นที่รายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่มีการร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ ต.คลองเคียน และ ต.หล่อยูง เกิดขึ้นอีก สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานปล่อยให้มีการทำไม้ออกจากพื้นที่ป่า โดยฮั่วกับกลุ่มนายทุนซึ่งครอบครองพื้นที่บนที่ภูเขาที่มีความลาดชันสูงที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ หรือพื้นที่ที่ออกเอกสารสิทธิ์ทับป่าโดยมิชอบในพื้นที่สูง
"ชาวบ้านหวั่นเกรงว่าช่วงหน้าฝนเมื่อหน้าที่ดินถูกเปิดไม่มีต้นไม้ใหญ่ประกอบกับมีความลาดชันสูงอาจจะส่งผลให้เกิดการไหลของดินซึ่งอาจจะทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นประกอบกับพื้นที่ทั้งตำบลคลองเคียนและตำบลหล่อยูงส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่าไม้ โดยเฉพาะพื้นที่สูงชัด แต่ส่วนราชการหลายหน่วนงานปล่อยปละละเลยให้นายทุนครอบครองพื้นที่และเป็นแหล่งที่มาของการหาประโยชน์มิชอบมาต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้จับกุมพื้นที่ที่นายทุนบุกรุกจำนวน 400 ไร่ และได้ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายทุนที่ สภ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา" แหล่งข่าวระบุ
ด้านนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า กรณีการเปิดหน้าดินบริเวณจุดชมวิวเสม็ดนางชี จังหวัดพังงา ได้มีการร้องเรียนมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการพื้นที่ 8 ได้ขอออกเลขสืบสวนและลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนในเชิงลึกแล้ว คาดว่าจะทราบผลภายในระยะเวลา 15 วันนี้