‘ศุภชัย ใจสมุทร’ ส.ส.ภูมิใจไทย แจงปมศาลตัดสินลงโทษปลูกกัญชา 1 ต้น เหตุถูกจับก่อนใช้กฎหมายใหม่ ระบุเข้าใจเจ้าหน้าที่-ประชาชนอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ชี้ 8 มิ.ย.65 คลายล็อกสมบูรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2565 นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Suphachai Jaismut กรณีศาลจังหวัดขอนแก่น มีคำพิพากษาเกี่ยวกับการครอบครองกัญชา 1 ต้น ให้จำเลยต้องโทษจำคุก 3 เดือน 15 วัน และปรับ 17,500 บาท ทั้งนี้ไม่ปรากฎว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี และให้คุมความประพฤติจำเลยไว้มีกำหนด 1 ปี พร้อมระบุ โปรดงดแสดงความคิดเห็นต่อคำพิพากษา โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.ประมวลกฎหมายยาเสพติด ยกเลิก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ประกาศลงราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2564 โดยเดิมตาม พ.ร.บ.กัญชา เป็นยาเสพติดประเภท 5 แต่ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด กัญชาไม่ได้ถูกระบุชื่อไว้
2.จำเลยถูกจับว่ากระทำความผิดเมื่อ 16 พ.ย.2564 ก่อนประมวลกฎหมายมีผลใช้บังคับ และถูกฟ้องว่ากระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 โดยจำเลยให้การรับสารภาพ
3.เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2565 รมว.สาธารณสุข ได้ออกประกาศโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 29 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ระบุรายชื่อยาเสพติดประเภท 5 พ.ศ.2565 โดยมี 1) พืชฝิ่น 2) เห็ดขี้ควายหรือพืชเห็ดขี้ควาย
และ 3) สารสกัดจากทุกส่วนของกัญชากัญชงที่มีค่า thc เกิน 0.2% โดยไม่ได้ระบุชื่อพืชกัญชา
4.ศาลพิพากษาเมื่อวันที่ 16 มี.ค.2565 ว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 โดยคำพิพากษาระบุว่ากัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564
5.หากจำเลยไม่เห็นพ้องด้วยต่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ต่อได้
6.ช่วงกฎหมายใหม่มายกเลิกกฎหมายเก่า เป็นระยะเปลี่ยนผ่านที่ทำให้ประชาชนสับสน คดีควรเป็นบรรทัดฐานโดยคำพิพากษาของศาลสูงสุด
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามจากนายศุภชัย เพิ่มเติมระบุว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของกฎหมายกัญชา มีเรื่องห้วงเวลาเข้าไปเกี่ยวข้อง ตามเจตนารมณ์กฎหมาย ที่ออกกันมาใหม่ ชัดเจนว่า กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว แต่การบังคับใช้ ยังไม่เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ เพราะต้องรอประกาศยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 (ย.ส.5) ในราชกิจจานุเบกษาครบ 120 วันก่อน กัญชาถึงจะปลดล็อกอย่างสมบูรณ์ เมื่อวันนั้นมาถึง ชาวบ้านที่ต้องการปลูกในครัวเรือนให้ไปจดแจ้ง ส่วนที่อยากปลูกเป็นอุตสาหกรรมให้ไปทำตามระเบียบกำหนด แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ ยังมีความสับสนกันเยอะ ที่อยากจะขอคือให้เจ้าหน้าที่ใช้วิจารณญาณ ด้วยการดูเจตนารมณ์ของกฎหมาย ปลูก 1 ต้น 2 ต้น ไว้รักษาตนเอง หากพบเจอ ขอให้ ตักเตือนทำความเข้าใจ อย่าให้ถึงขั้นกระทำการ จนสังคมมองว่า ไปรังแกประชาชนเลยย้ำว่านโยบายกัญชาภูมิใจไทย ผลักดันไปได้ 90% แล้ว เราเอากัญชาออกมาจากความเป็นยาเสพติด เหลืออีกแค่ 4 เดือน หรือ 8 มิ.ย.2565 ทุกอย่างก็จะสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าพรรคภภูมิใจไทย เราพูดแล้วทำ