ครม.เคาะปรับปรุงแผนรองรับวิกฤติน้ำมันเชื้อเพลิงครั้งที่ 2 ปลดเพดานให้กองทุนน้ำมันฯ กู้เงินเกิน 4 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐตรี (ครม.) เห็นชอบทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2565 ที่เห็นชอบมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 3/64 เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2564 ในส่วนของแผนรองรับวิกฤตการณ์ ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉ.ปรับปรุง ครั้งที่ 1) และแผนยุทธศาสตร์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติมีมติเห็นชอบ ร่างแผนรับรองวิกฤติด้านน้ำมันเชื้อเพลิงฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 ทบทวนหลักเกณฑ์การบริหารกองทุนน้ำมันฯ ยกเลิกการกำหนดวงเงินบริหารกองทุนน้ำมัน ฯ รวมวงเงินกู้ยืมต้องไม่เกิน 40,000 ล้านบาท ทั้งนี้ จะมีการออกร่าง พ.ร.ฎ.เพื่อแก้ไขกรอบวงเงินดังกล่าวต่อไป
รวมทั้งยังได้มีการปรับกลยุทธ์การถอนกองทุนน้ำมัน (Exit Strategy) โดยให้ยกเลิกการปรับสัดส่วนการช่วยเหลือลงครึ่งหนึ่ง เมื่อฐานะกองทุนน้ำมันใกล้ติดลบตาม พ.ร.ฎ.ขยายกรอบวงเงินกู้ เป็น 30,000 ล้านบาท แต่ยังคงดำเนินการหารือการปรับลดภาษีสรรพสามิต เพื่อให้ระดับราคาไม่ปรับตัวสูงขึ้นมากนักและเริ่มดำเนินการกู้เงินเพื่อให้กองทุนน้ำมันไม่ขาดสภาพคล่อง
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงแผนรองรับวิกฤตการณ์ ในส่วนของหลักเกณฑ์การบริหารจัดการกองทุนน้ำมัน เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และให้มีเงินเพียงพอเพื่อใช้ในการบริหารจัดการกองทุนน้ำมัน อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ครม.ได้ปรับวงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็น 40,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้การตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตร ปัจจุบันอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 7 บาท อย่างไรก็ตมต้องติดตามราคาน้ำมันในตลาดโลกแบบวันต่อวัน