อัยการ แจ้งข้อไม่สมบูรณ์สำนวนคดี ป.ป.ช. ชี้มูล ‘เชาวนะ ไตรมาศ' เลขาฯศาล รธน.-พวก’ เอื้อเอกชนจัดซื้อคอมพิวเตอร์ 281 เครื่อง 13 ล. จ่อตั้งคณะทำงานร่วม 2 ฝ่าย - ส่วนด้านสอบวินัยหน่วยงานต้นสังกัดยังไม่ได้ดำเนินการลงโทษเช่นกัน เหตุเจ้าตัวใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ผลไต่สวนอยู่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สืบเนื่องจากในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ ผอ.ศูนย์เทคโนโลยี และบริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญา รวมถึงผู้จัดการบริษัท กรรมการ และผู้เกี่ยวข้องรวมหลายราย กรณีเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคาเกี่ยวกับการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ จำนวน 281 เครื่อง ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มูลค่า 13 ล้านบาทเศษ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท และผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 บัญญัติ ว่าผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และมีการส่งสำนวนให้กับอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีทางอาญา และส่งผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยต่อไป
@ นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวสำนักงาน ป.ป.ช. ว่า เกี่ยวกับคดีนี้ ฝ่ายอัยการ ได้แจ้งข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนการไต่สวนมาให้ป.ป.ช.รับทราบ จึงจะต้องมีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างฝ่ายอัยการและฝ่าย ป.ป.ช. ขึ้นมาเพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ร่วมกันต่อไป ซึ่งถ้าหากไม่สามารถตกลงร่วมกันได้ ป.ป.ช. ก็มีสิทธิที่จะยื่นเรื่องฟ้องร้องคดีนี้เอง
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการทางวินัยนั้น แหล่งข่าวจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า ขณะนี้ ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้มีการลงโทษทางวินัย นายเชาวนะแต่อย่างใด เนื่องจาก นายเชาวนะ ได้ใช้สิทธิ์ที่จะอุทธรณ์ผลการไต่สวนของ ป.ป.ช. ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 99 อยู่ ซึ่งผลการอุทธรณ์ยังไม่เสร็จสิ้นตามกระบวนการ
อนึ่ง เกี่ยวกับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด