นายกฯ ห่วงสถานการณ์ รัสเซีย-ยูเครน หลังปูตินประกาศสงคราม ยันต้องติดตามดูแล-กำหนด 3 แผนอพยพ ช่วยเหลือให้ทันต่อสถานการณ์ ด้าน กต.ออกแถลงการณ์หนุนพูดคุยด้วยสันติเพื่อแก้วิกฤติความขันแย้ง เผยคนไทยส่วนใหญ่ใช้ชีวิตปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ทราบถึงสถานการณ์ล่าสุดที่มีเหตุการณ์ความรุนแรง และตึงเครียดมากขึ้นบริเวณชายแดนยูเครน นายกรัฐมนตรีได้ติดตามสถานการณ์ด้วยความห่วงกังวลอย่างยิ่ง สั่งการอย่างใกล้ชิดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมช่วยเหลือดูแลคนไทยในยูเครน ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอให้คนไทยทุกคนในยูเครนติดตามสถานการณ์ ข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดหากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ (สาธารณรัฐโปแลนด์)
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงการต่างประเทศประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ออกประกาศเตือนให้คนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางมายังพื้นที่บริเวณเมืองโดเนตสค์ (Donetsk) และเมืองลูฮันสค์ (Luhansk) รวมทั้งได้จัดทำแผนอพยพคนไทย กรณีมีความจำเป็น ไว้ 3 แผน คือ 1 จะใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำออกจากเมืองลวิฟ (Lviv) ซึ่งอยู่บริเวณชายแดนยูเครนโดยตรง หรือ 2 กรณีน่านฟ้าปิด จะอพยพคนไทยมารวมกันที่เมืองลวิฟ เพื่อเดินทางข้ามแดนต่อไปยังกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เพื่อขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำกลับไทย หรือ 3 ทางการไทย จะจัดเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับคนไทยที่เมืองลวิฟ หรือ เมืองวอซอร์ ซึ่งการบินไทย และกองทัพอากาศ ได้หารือเตรียมการไว้ด้วยแล้ว
อีกทั้ง ได้มีการสอบถาม ติดตาม และเยี่ยมเยียนชุมชนไทยเป็นระยะ พร้อมทั้งประกาศเตือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่ที่มีพัฒนาการความตึงเครียด พร้อมขอให้ผู้ที่พำนักอาศัยในยูเครนติดตามสถานการณ์และข่าวสารอย่างใกล้ชิด ทั้งทาง Facebook สถานเอกอัครราชทูตฯ กลุ่ม LINE ระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับชุมชนไทยในยูเครนเพื่อสื่อสารกับคนไทยได้อย่างรวดเร็วและทันเหตุการณ์ยิ่งขึ้น และกลุ่ม Telegram ระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับเจ้าของร้านสปาไทย ชาวยูเครน เพื่อการประสานงานกันอย่างทันท่วงทีกรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย โดยมีหมายเลขสายด่วน +48 696 642 348 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
ทางด้าน กระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่แถลงการณ์ของรัฐบาลไทยบนเว็บไซต์ www.mfa.go.th ต่อสถานการณ์ในประเทศยูเครน โดยระบุว่า ประเทศไทยได้ติดตามพัฒนาการในยูเครนด้วยความห่วงกังวลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการทวีความตึงเครียดในทวีปยุโรป ทั้งนี้ เราสนับสนุนความพยายามที่ยังคงดำเนินอยู่เพื่อแสวงหาการแก้ไขสถานการณ์อย่างสันติผ่านการหารือ
ขณะที่ นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งมีอาณาเขตดูแลประเทศยูเครนด้วย ได้หารือผ่านระบบทางไกลกับผู้แทนลูกจ้างชาวไทยจากร้านสปาในเมืองต่างๆ ของยูเครน กว่า 30 ราย เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อสอบถามถึงความเป็นอยู่และสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงข้อมูลด้านอื่นๆที่คนไทยในยูเครนต้องการหยิบยก โดยตัวแทนคนไทยได้แจ้งว่าสถานการณ์ในพื้นที่ ทั้งกรุงเคียฟ เมืองโอเดซา เมืองลวิฟ และเมืองคาเคียฟ (ซึ่งติดชายแดนกับรัสเซีย) ยังถือว่าปกติ ไม่มีการกักตุนอาหาร และลูกค้าไม่ได้ลดลง ยกเว้นในเมืองท่องเที่ยว อาทิ เมือง Odesa อีกทั้งคนไทยในยูเครนส่วนใหญ่ยังมีขวัญกำลังใจดี ใช้ชีวิตและทำงานกันตามปกติ แต่บางส่วนที่รู้สึกกังวลบ้างต่อสถานการณ์ความตึงเครียด แต่ได้เตรียมความพร้อมในระดับหนึ่งและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดจากสถานเอกอัครราชทูตฯ จากทางกลุ่มไลน์ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ตั้งขึ้น
นายเชษฐพันธ์ กล่าวยืนยันกับคนไทยที่เข้าร่วมหารือ ถึงแผนอพยพคนไทยในยูเครน หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เตรียมความพร้อมร่วมกับหน่วยงานราชการต่างๆของไทยไว้แล้ว นอกจากนี้เอกอัครราชทูตฯจะหารือกับนายจ้างชาวยูเครนเป็นครั้งที่ 2 ในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อพูดคุยถึงการดูแลลูกจ้างชาวไทย และจะนำประเด็นต่างๆที่ตัวแทนคนไทยหยิบยกขึ้นไปคุยกับนายจ้างด้วย