โควิด 16 ก.พ. กทม.ยังติดเชื้อ-เสียชีวิตมากสุด จับตาสมุทรปราการ ชลบุรี นนทบุรีป่วยใหม่เกิน 500 ราย ขณะที่ฉีดวัคซีนแล้ว 120.52 ล้านโดส กลุ่มผู้สูงวัยฉีดเข็มแรกกว่า 82% ส่วนเด็ก 5-11 ปีฉีดแล้ว 4.5%
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 16,462 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 16,185 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 15,976 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 209 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 141 ราย อีก 136 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,639,062 ราย
หายป่วยเพิ่ม 10,868 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 138,295 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 699 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 155 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 27 ราย เป็นผู้สูงอายุ 21 ราย คิดเป็น 78% ป่วยเรื้อรัง 5 ราย คิดเป็น 18% รวม 96% เสียชีวิตสะสม 22,516 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 27 ราย โดยในจำนวนนี้ มาจาก กทม. 8 ราย ขอนแก่น 2 ราย นครราชสีมา 2 ราย มุกดาหาร 1 ราย อุดรธานี 1 ราย อุบลราชธานี 1 ราย พิจิตร 1 ราย ลำปาง 1 ราย อุตรดิตถ์ 1 ราย นครศรีธรรมราช 2 ราย ภูเก็ต 1 ราย สุราษฎร์ธานี 1 ราย ชลบุรี 2 ราย ฉะเชิงเทรา 1 ราย ราชบุรี 1 ราย และสระบุรี 1 ราย มีปัจจัยเสี่ยงมาจากโรคประจำตัว การอาศัยในพื้นที่ระบาด และการติดเชื้อจากคนใกล้ชิด
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 2,891 ราย สมุทรปราการ 994 ราย ชลบุรี 805 ราย นนทบุรี 661 ราย ภูเก็ต 496 ราย สมุทรสาคร 460 ราย นครราชสีมา 457 ราย นครศรีธรรมราช 402 ราย ปทุมธานี 382 ราย และราชบุรี 371 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 52,842 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 44,312 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 206,430 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 120,520,771 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 52,876,077 ราย คิดเป็น 76% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 49,300,254 ราย คิดเป็น 70.9% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 18,344,440 ราย คิดเป็น 26.4%
โดยมีผลการให้บริการวัคซีนโควิดกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จากเป้าหมาย 12,711,943 ราย ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 10,490,801 ราย คิดเป็น 82.5% เข็มที่สอง 9,857,794 ราย คิดเป็น 77.6% เข็มที่สาม 3,310,945 ราย คิดเป็น 26.1% และกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี จากเป้าหมาย 5,150,082 ราย ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 229,871 ราย คิดเป็น 4.5% เข็มที่สอง 11,638 ราย คิดเป็น 0.2%
เดินทางเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 136 สะสมเดือนนี้ 2.67 พันราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 136 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 60 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 69 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 6 ราย และลักลอบ 1 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน ก.พ. สะสมรวม 2,670 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 459 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 2,029 ราย และแบบกักตัว (Quarantine) 182 ราย ทั้งหมดนี้คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 2.77%
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1.90 ล. รวมสะสม 415.93 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1,900,385 ราย รวม 415,934,477 ราย อาการหนัก 85,227 ราย หายป่วย 338,697,761 ราย เสียชีวิต 5,856,490 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 94,818 ราย รวม 79,629,064 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,202 ราย รวม 949,248 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 28,902 ราย รวม 42,721,845 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 515 ราย รวม 509,903 ราย บราซิล พบเพิ่ม 123,827 ราย รวม 27,664,958 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 909 ราย รวม 638,822 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 31 ของโลก
ติดเชื้อนิวไฮ 16,326 เสียชีวิตอีก 27 ยอดผู้ป่วยมีอาการใกล้ 1.4 แสนราย
อนึ่งก่อนหน้านี้ เวลา 08.19 น. สำนักข่าวอิศรารายงานสถานการณ์โควิดประจำวันว่า 16,462 ราย ซึ่งเป็นยอดติดเชื้อสูงสุดในรอบ 7 วัน ส่งผลทำให้มีผู้ติดเชื้อใหม่นั้บตั้งแต่ปี 2565 ทั้งสิ้น 415,627ราย ติดเชื้อสะสมตั้งแต่มีสถานการณ์ 2,639,062 ราย โดยแบ่งออกเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศ 16,326 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 136 ราย มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 22 ราย ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 22,516 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเข้าข่ายหรือ ATK อยู่ที่ 11,816 ราย
ขณะที่ข้อมูลการรักษานั้นพบว่ามีผู้หายป่วยรายใหม่รวม 10,868 ราย ทำให้นับตั้งแต่ต้นปี 2565 มีผู้หายป่วยรวมแล้ว 309,757 ราย มีผู้ป่วยที่กำลังรักษา 138,295 ราย เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ 699 ราย และเป็นผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ155 รายทั้งนี้ผู้ป่วยรายใหม่ 16,462 รายนั้น เป็นผู้ป่วยในเรือนจำ 141 ราย