โฆษกรัฐบาล ยัน นายกรัฐมนตรี ไม่มีความจำเป็นที่ต้องยุบสภา เพราะไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน รวมถึงต้องเสียงบประมาณจัดเลือกตั้งใหม่มหาศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงว่า รัฐบาลพร้อมเป็นเจ้าภาพประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APEC 2022) ต้อนรับผู้นำนานาชาติสู่ไทยในเดือน พ.ย.นั้นไม่น่าเป็นไปได้ เพราะต้องเจอทั้งศึกในและศึกนอก
นายธนกร กล่าวว่า การที่พรรคการเมืองมีหลายกลุ่มหลายก๊วน และมีการแยกตัวออกไปอยู่กับพรรคอื่นนั้น ถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยน่าจะเข้าใจดีที่สุด เพราะไม่ว่าจะเป็นสมัยพรรคไทยรักไทย มาจนถึงพรรคพลังประชาชน หรือพรรคเพื่อไทย ล้วนมีหลายกลุ่มหลายก๊วน จนต้องแยกแกนนำพรรคแต่ละคนไปคุมแต่ละก๊วนมาแล้ว ซึ่งเรียกได้ว่าเกิดปัญหามากกว่าพรรคพลังประชารัฐด้วยซ้ำ ดังนั้น ไม่อยากให้ นายประเสริฐรีบมโนไปเองว่า พรรคพลังประชารัฐจะต้องเป็นเหมือนพรรคเพื่อไทย เพราะอย่างน้อยอุดมการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะความเด็ดขาดกับการทุจริตคอร์รัปชั่นนั้น ไม่เหมือนกับพรรคเพื่อไทย ที่มีอดีตรัฐมนตรีถูกตัดสินจำคุกอย่างแน่นอน
นายธนกร กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในการบริหารประเทศเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องยุบสภา เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยกับประชาชน มีแต่จะต้องเสียงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งใหม่ เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของพรรคการเมืองบางพรรค คนบางกลุ่ม ที่แอบหวังว่าจะ มีโอกาสได้เข้ามาบริหารประเทศบ้าง ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลนั้นก็ยังเหนียวแน่น คงมีแต่พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่พยายามยุยงรายวัน หวังจะให้เกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองให้ได้ ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่า เป็นแค่ความฝัน แต่ก็ยังขอให้ได้ฝัน
“แม้ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถยุบสภาได้ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นที่ท่านนายกรัฐมนตรี จะต้องยุบสภา เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมชี้แจงฝ่ายค้านทุกประเด็น และจะใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจกับประชาชนด้วยที่สำคัญ การอภิปรายไม่ไว้วางใจในหลายครั้งที่ผ่านมาของฝ่ายค้านได้พิสูจน์ให้ประชาชนเห็นแล้วว่า เป็นการอภิปรายแบบตัดแปะ เพราะข้อมูลที่นำมาอภิปรายนั้นไร้น้ำหนัก มีแต่ข้อกล่าวหาและการสาดโคลน ไม่ได้เกิดประโยชน์หรือสาระอะไรให้กับประชาชนและบ้านเมืองเลย” นายธนกร กล่าว