โควิดวันนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่ทะลุ 1.5 หมื่น กำลังรักษาตัวเกินแสน เสียชีวิตเพิ่ม 23 คร่าทารกวัย 8 เดือน 1 ราย ขณะที่ยอดติดเชื้อ กทม.พุ่งต่อเนื่อง 3,019 ราย ฉีดวัคซีนสะสมแล้ว 119 ล้านโดส เป็นเข็มกระตุ้นใกล้แตะ 25%
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2565 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 15,242 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 14,925 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 14,885 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 40 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 135 ราย อีก 182 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,561,115 ราย
หายป่วยเพิ่ม 8,955 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 111,393 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 569 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 113 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 23 ราย เป็นผู้สูงอายุ 18 ราย คิดเป็น 79% ป่วยเรื้อรัง 4 ราย คิดเป็น 4% รวม 96% ทั้งนี้มีเด็กอายุ 8 เดือน จากชลบุรี มีประวัติโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดเสียชีวิตด้วย 1 ราย ทำให้มียอดเสียชีวิตสะสม 22,387 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 23 ราย โดยในจำนวนนี้ มาจาก กทม. 1 ราย ปทุมธานี 2 ราย นครปฐม 1 ราย นนทบุรี 1 ราย สมุทรปราการ 1 ราย อุบลราชธานี 2 ราย เลย 1 ราย มหาสารคาม 1 ราย ร้อยเอ็ด 1 ราย ศรีสะเกษ 1 ราย ภูเก็ต 2 ราย สุราษฎร์ธานี 1 ราย ลำปาง 1 ราย ชลบุรี 2 ราย จันทบุรี 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย อยุธยา 1 ราย ราชบุรี 1 ราย และสระบุรี 1 ราย มีปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อมาจากโรคประจำตัว การอาศัยในพื้นที่ระบาด และติดเชื้อจากคนใกล้ชิด
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 3,019 ราย สมุทรปราการ 979 ราย ชลบุรี 785 ราย นนทบุรี 615 ราย ภูเก็ต 412 ราย สมุทรสาคร 347 ราย นครปฐม 318 ราย ราชบุรี 314 ราย ปทุมธานี 302 ราย และนครศรีธรรมราช 297 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 46,102 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 40,847 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 427,278 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 119,011,647 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 52,657,317 ราย คิดเป็น 75.7% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 49,107,345 ราย คิดเป็น 70.6% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 17,246,985 ราย คิดเป็น 24.8%
เดินทางเข้าไทย ติดเชื้อสะสม 1.83 พัน คิดเป็น 3.28%
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 182 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 39 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 122 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 14 ราย และลักลอบ 7 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน ก.พ. สะสมรวม 1,832 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 166 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 1,516 ราย และแบบกักตัว (Quarantine) 150 ราย ขณะที่มีผู้เดินทางเข้ามาทั้งหมด 55,823 ราย คิดอัตราการติดเชื้อสะสมเป็น 3.28%
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 2.41 ล. รวมสะสม 406.27 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 2,418,983 ราย รวม 406,270,115 ราย อาการหนัก 89,233 ราย หายป่วย 326,039,900 ราย เสียชีวิต 5,808,584 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 179,237 ราย รวม 79,052,681 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,465 ราย รวม 939,427 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 55,988 ราย รวม 42,534,048 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 659 ราย รวม 507,208 ราย บราซิล พบเพิ่ม 165,359 ราย รวม 27,125,512 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 922 ราย รวม 636,111 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 30 ของโลก
ไทยติดโควิดทะลุ 1.5 หมื่น เจอ ATK อีก 8,268 ตาย 23 ราย
อนึ่งก่อนหน้านี้ เวลา 08.32 น. สำนักข่าวอิศรารายงานสถานการณ์โควิดประจำวันว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 15,242 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 15,060 ราย และผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 182 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 337,680 ราย ขณะที่มีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) 8,268 ราย
ผู้ติดเชื้อแบ่งออกตามรายพื้นที่ แบ่งเป็น 8 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว 5,435 ราย 18 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวที่มีพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวอื่นๆ 3,792 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดอื่นๆ 5,698 ราย และเรือนจำ 47 ราย
ขณะที่มีผู้หายป่วย 8,955 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสมระลอกใหม่ 258,841 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 111,393 ราย โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 569 ราย ต้องท่อช่วยหายใจ 113 ราย และมีผู้เสียชีวิต 23 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 689 ราย