ไทยติดโควิดเพิ่ม 4,886 ราย หายป่วย 6,326 ราย เสียชีวิต 43 ราย เป็นผู้สูงอายุ - โรคเรื้อรัง 95% สธ.เร่งรณรงค์ฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดสตามเป้า พบ แม่ฮ่องสอน รับเข็มแรก 45.92% ต่ำสุดของประเทศ อีก 26 จังหวัดยังไม่ถึง 60%
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 4,886 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 4,715 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 4,566 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 149 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 165 ราย อีก 6 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,120,758 ราย
หายป่วยเพิ่ม 6,326 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 74,190 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,351 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 340 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 43 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 20,814 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 43 ราย มากสุดที่นครศรีธรรมราช 5 รายสงขลา 3 ราย นครราชสีมา พิษณุโลก กระบี่ ลพบุรี สระแก้ว จังหวัดละ 2 ราย เป็นผู้สูงอายุและโรคเรื้อรัง 95% ผู้เสียชีวิตวันนี้ ยังพบเด็กชายอายุ 5 เดือน เสียชีวิต และพบอาการโรคหัวใจแต่กำเนิดรวมอยู่ด้วย
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 794 ราย สงขลา 270 ราย สุราษฎร์ธานี 240 ราย นครศรีธรรมราช 204 ราย ชลบุรี 198 ราย เชียงใหม่ 171 ราย สมุทรปราการ 140 ปัตตานี 119 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 117 ราย และชุมพร 100 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 6 ราย แบ่งเป็น ไอซ์แลนด์ 1 ราย สิงคโปร์ 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย กัมพูชา 1 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย และมัลดีฟส์ 1 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมสาธารณสุขยังได้ติดตามสถานการณ์การติดเชื้อโควิดเป็นคลัสเตอร์ พบการระบาดหลายแห่ง ส่วนใหญ่มาจากโรงงาน พบที่ ปราจีนบุรี ลพบุรี สระบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี ส่วนตลาด พบที่ขอนแก่น อุดรธานี สุราษฎร์ธานี จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พิธีกรรมทางศาสนา อาทิ งานศพ งานบุญ แคมป์คนงาน พบที่ระยอง สุรินทร์ สระแก้ว ขอนแก่น โรงเรียนพบที่ ประจวบคีรีขันธ์ สระแก้ว เชียงใหม่ เลย และอุบลราชธานี ที่ลงไปถึงระดับโรงเรียนอนุบาล ส่วนค่ายทหาร พบที่ ชลบุรี ร้านอาหารอยู่ที่อุบลราชธานี และอุดรธานี
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 233,654 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 274,665 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 64,754 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 93,231,463 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 48,307,704 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 41,485,442 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 3,438,317 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงเป้าหมายการฉีดวัคซีน 100 ล้านโดส ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. – 5 ธ.ค.จะเป็นสัปดาห์ของการฉีดวัคซีนที่จะเร่งฉีดเพิ่มเติม เมื่อดูรายละเอียด พบว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับวัคซีนน้อยที่สุด คือ 45.92% ส่วนจังหวัดที่ฉีดวัคซีน 50-59.99% มีทั้งหมด 26 จังหวัด
“ขอความร่วมมือประชาชนในจังหวัดเหล่านี้ เข้ารับการฉีดวัคซีน ขอให้ช่วยกัน เพราะคนใดคนหนึ่งฉีดวัคซีนไม่ได้ช่วยให้สังคมเราปลอดภัย แต่ต้องฉีดให้ได้ 70% ขึ้นไป รวมถึงเข็มสองด้วย เราถึงจะมีภูมิคุ้มกัน และตอนนี้มีโอไมครอนเข้ามา อย่างน้อยจะช่วยลดการรุนแรงของโรคได้บ้าง”
นักท่องเที่ยวเข้าไทยติดเชื้อ 5 สะสม 171 ราย
ส่วนรายงานการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564 มีผู้เดินทางเข้าประเทศรายใหม่ 4,034 ราย รวมสะสม 133,061 ราย จำแนกเป็น Test and Go 106,211 ราย Sandbox 21,438 ราย กักตัว 7 วัน 1,743 ราย กักตัว 10 วัน 3,654 ราย กักตัว 14 วัน 15 ราย โดยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 6 ราย รวมสะสม 166 ราย คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 0.13%
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 585,319 รวมสะสม 263.03 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 585,319 ราย รวม 263,035,743 ราย อาการหนัก 84,759 ราย หายป่วย 237,521,026 ราย เสียชีวิต 5,233,046 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 106,876 ราย รวม 49,428,913 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,438 ราย รวม 803,045 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 7,751 ราย รวม 34,595,573 ราย เสียชีวิต 76 ราย รวม 469,056 ราย บราซิล พบเพิ่ม 9,710 ราย รวม 22,094,459 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 326 ราย รวม 614,754 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก
โควิดไทย ติดเชื้อรายวัน 4,886 รักษาหาย 7,218 ขณะยอดเสียชีวิตใหม่ 43 ราย
อนึ่งเมื่อเวลา 08.30 น.สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประเทศไทย ประจำวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,886 ราย
ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,120,758 ราย
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,886 ราย แยกเป็นทั่วไป 4,721 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 165 ราย
ส่วนการรักษา มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 7,218 ราย ยอดหายป่วยสะสม 2,019,428 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 75,637 ราย เป็นผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 363 ราย และผู้ป่วยมีอาการหนัก 1,508 ราย
มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 43 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 20,720 ราย