ผู้เชี่ยวชาญเผยผลทดลองวัคซีนไฟเซอร์ พบประสิทธิภาพโดสสองลดลงหลังผ่าน 90 วัน หนุนฉีดบูสเตอร์ -ด้าน แอสตร้าฯยันวัคซีนกระตุ้นเซลล์ทีในกลุ่มผู้สูงอายุได้ดีสุด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสว่าผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าจากการติดตามประสิทธิภาพของวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์และไบออนเท็ค พบความเสี่ยงว่าการติดเชื้อจากผู้ที่ฉีดวัคซีนนั้นมีเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ผ่านพ้นจากการฉีดวัคซีนโดสสองไปแล้วเป็นระยะเวลา 90 วัน
โดยการศึกษาจากทีมงานที่ตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์อังกฤษหรือว่า British Medical Journal (BMJ) นั้นถือว่าเป็นข้อยืนยันอย่างชัดเจนถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการฉีดวัคซีนในโดสที่สามหรือที่เรียกว่าบูสเตอร์โดสเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบบก้าวหน้าเมื่อภูมิคุ้มกันได้ลดลงไปแล้ว
ซี่งในประเทศไอร์แลนด์นั้นได้มีการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์จำนวนกว่าห้าล้านโดสไปแล้ว ทำให้กลายเป็นวัคซีนหลักจองประเทศนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ปรากฎว่ามีรายงานว่ามีการจัดสรรวัคซีนบูสเตอร์ให้กับประชากรของประเทศนี้ไปในช่วงเวลาห้าเดือนหลังจากที่มีการฉีดวัคซีนโดสที่สอง
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน Leumit Health Services ในประเทศอิสราเอลก็พบว่ามีอัตราความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นหลังจาก 90 วันผ่านไปแล้ว ในกลุ่มประชากรที่ได้รับวัคซีนบริษัทไฟเซอร์และไบออนเท็ค
ส่วนทางด้านของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้านั้นก็ได้ออกมาเปิดเผยด้วยเช่นกันว่าแอนติบอดี้หรือสารภูมิคุ้มกันที่ได้มาจากทางบริษัทนั้นก็มีการถดถอยลงเช่นกัน อย่างไรก็ตามนายปาสคาล โซริออท ผู้บริหารของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าก็ได้กล่าวเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมาว่าวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้านั้นสามารถสร้างภูมิคุ้มกันในระยะยาวในเซลล์ที ในกลุ่มคนสูงอายุได้ดีกว่าวัคซีนชนิดอื่นๆ
เรียบเรียงจาก:https://www.irishtimes.com/news/health/pfizer-vaccine-immunity-starts-to-wane-90-days-after-second-dose-study-1.4738782
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/