ประชุมใหญ่ ‘เพื่อไทย’ เปิดตัว 'อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร' นั่งที่ปรึกษาพรรค ปัดเป็นนักการเมือง - ยังไม่คิดเรื่องเคนดิเดตนายกฯ ส่วน 'หมอชลน่าน' นั่งหัวหน้าคนใหม่ นำทัพ 23 กรรมการบริหารพรรค 'ประเสริฐ' ควบเลขาฯตามเดิม ขณะที่ ‘หมอเลี้ยบ’ รับหน้าที่ ผอ.พรรค สานฝันต่อ ‘ไทยรักไทย-พลังประชาชน’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 พรรคเพื่อไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ที่ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดขอนแก่น ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีกรรมการบริหารพรรค , ส.ส. และแกนนำ รวมถึงสมาชิกพรรค พร้อมใจกันใส่เสื้อสีแดง ทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุม ส่วนบริเวณด้านนอกห้องประชุม มีการจัดนิทรรศการประวัติความเป็นมาของพรรคเพื่อไทย พร้อมเน้นย้ำข้อความสโลแกนใหม่ของพรรค 'พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน'
‘สมพงษ์’ ลาออกส่งไม้ต่อคนรุ่นใหม่
ขณะที่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นเวลาของคนรุ่นใหม่เข้ามาสานต่อกิจกรรมต่างๆ เพื่อร่วมมือร่วมใจกับประชาชนช่วยสร้างวันพรุ่งนี้ให้เป็นอนาคตและความหวังของคนไทยทุกคน ตนตั้งใจตั้งแต่แรกว่าเมื่ออายุครบ 80 ปี คงต้องละมือทางการเมืองแต่ยังติดที่จังหวะเวลานี่คือช่วงโอกาสและจังหวะพอดี ตนถือโอกาสในวันนี้ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่ต่อ
จากนั้น นายสมพงษ์ ได้เชิญ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณในที่ประชุมใหญ่สามัญพรรค ที่จะมานั่งตำแหน่งประธานที่ปรึกษานวัตกรรมใหม่ ขึ้นเวทีประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย ด้วย
เปิดตัว ‘อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร’ ร่วมงานเพื่อไทย
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การมีส่วนร่วมมีความสำคัญมาก มนุษย์ทุกคนต้องอยู่ร่วมกัน ต้องมีความเข้าใจพื้นฐานความคิดของกันและกัน เราต้องพยายามเข้าใจรุ่นที่ไม่ใช่รุ่นเดียวกับเรา หรือ baby boomers หรือรุ่นดิฉัน ไปจนถึงรุ่นลูก ความเข้าใจนี้จะทำให้อยู่ร่วมกันได้ด้วยความเข้าใจ ดิฉันเห็นว่า พรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชน ต้องเป็นตัวแทนของคนทุกรุ่นทุกวัย
นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า ตัวดิฉันเองค่อนข้างโชคดี เป็นลูกที่มีความใกล้ชิดกับคุณพ่อ เพราะช่วงเวลาที่เกิด เป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว มีเวลาให้ดิฉันมากกว่าพี่ๆ เมื่อท่านไปอยู่ต่างประเทศ ดิฉันมีเวลาไปหาท่านบ่อย ทุกเดือน หรือแทบจะเดือนเว้นเดือนก็ว่าได้ ไปทุกครั้งก็ได้ไปนั่งคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับท่าน ท่านสนใจเทคโนโลยีอย่างมาก และดิฉันอยากเข้ามามีส่วนร่วมในพรรคเพื่อผลักดันให้คนรุ่นใหม่มีโอกาส ความหวัง และทำฝันของเขาให้เป็นจริง
“ดิฉันสัมผัสการเมืองมาตั้งแต่ 8 ขวบ สมัยคุณพ่อเป็น รมว.ต่างประเทศ พอ 9 ขวบคุณพ่อเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม ก็ไปพบปะประชาชนกับท่าน ถัดมาอีก 2-3 ปี อายุ 12 ปี คุณพ่อตั้งพรรคไทยรักไทย เป็นชื่อที่อยู่ในใจเสมอ มีความรู้สึกผูกพันกับชื่อนี้” นางสาวแพทองธาร กล่าว
เผย ‘ทักษิณ’ อยากกลับมากราบแผ่นดิน
นางสาวแพทองธาร กล่าวด้วยว่า เมื่อปี 2546 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปค ปีต่อมามีโอกาสอันดีคือได้ตามคุณพ่อไปประชุมเอเปคที่ประเทศชิลี มีโอกาสได้จับมือกับผู้นำที่มาประชุมทุกท่าน ตลอดเวลาที่ติดตามคุณพ่อ และได้พูดคุยกับท่าน ดิฉันสงสัยจริงๆว่า ทำไมท่านถึงทุ่มเทการทำงานและไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือว่าท้อแท้ จนวันนี้ดิฉันเข้าใจแล้วว่า เวลาท่านไปพบประชาชน แบ่งเบาความทุกข์ประชาชน นั่นคือพลังใจที่แท้จริงของท่าน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดว่าจะเป็นนักการเมือง และทุกวันนี้ก็ยังไม่คิดที่จะเป็นนักการเมือง เพียงแต่อยากให้คนรุ่นใหม่ มีโอกาสและควรได้รับโอกาส ภายใต้วิกฤติการเมืองแบบนี้เขามองไม่เห็นว่าอนาคตจะไปทางไหน ดิฉันคิดว่าพรรคเพื่อไทยอาจเป็นโอกาสได้เป็นพรรคการเมืองหลัก มีโอกาสแก้วิกฤติของประเทศ จึงตอบรับตำแหน่งนี้
นางสาวแพทองธาร กล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่ว่าคนไทยจะคิดต่างกันอย่างไร เราทุกคนล้วนเป็นคนไทย และอยากเห็นประเทศเจริญก้าวหน้าต่อไป ดิฉันขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนดิฉัน
“ดิฉันจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ แม้จะไม่ใช่นักการเมือง แต่จะขอทำงานด้วยความมุ่งมั่นด้วยใจจริง ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ในฐานะลูกของคุณพ่อ ที่ไม่เคยลืมบุญคุณของแผ่นดินไทย ไม่เคยลืมคนไทยที่ไม่เคยลืมท่าน และท่านปรารถนาอย่างมากที่จะได้กลับมากราบแผ่นดินไทยอีกครั้ง กลับมากราบผู้มีพระคุณ” นางสาวแพทองธาร กล่าว
ปัดเป็นนักการเมือง-เป็นที่ปรึกษาพรรรค
ต่อมา นางสาวแพทองธาร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงบทบาทในการทำงานในพรรคเป็นครั้งแรก ว่า ตนตั้งใจเข้ามาปกิรูป 3 เรื่อง คือ การศึกษา เทคโนโลยี และการส่งเสริมซอร์ฟพาวเวอร์ ตนมีไอเดียที่ได้เสนอให้พรรคได้นำไปทำงานต่อแบบเป็นกลุ่ม เป็นทีม อย่างไรก็ตาม การเข้ามาทำงานในพรรคครั้งนี้ ตนไม่ได้เข้ามาเป็นนักการเมือง และตนไม่ใช่นักการเมือง เป็นเพียงที่ปรึกษาพรรค ซึ่งตนจะมาทำงานด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่ด้วยหัวใจที่อยากผลักดันให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสที่มากขึ้นกว่านี้
เมื่อถามว่ามีโอกาสที่จะทำงานการเมืองต่อหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า อันนั้นเป็นเรื่องของอนาคต วันนี้ขอเป็นที่ปรึกษาพรรค และจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด นี่คือก้าวแรกที่ได้เป็นที่ปรึกษายังตื่นเต้น และกลัวทำได้ไม่ดี จึงขอเอาตรงนี้ให้ดีก่อน แล้วอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
เมื่อถามว่า วันนี้การมาเปิดตัวบนเวทีเหมือนเป็นตัวแทนคุณพ่อ มีแนวทางที่จะสานต่องานการเมืองอย่างไร นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ความจริงไม่ต้องให้ตนมาพูดตรงนี้ ก็แยกไม่ออกภาพตนกับคุณพ่อ เพราะตนเป็นลูกคุณพ่ออยู่แล้ว ไปไหนก็เป็นลูกของคุณพ่อซึ่งคือความภูมิใจ และไม่ได้อยากเปลี่ยนอยู่แล้ว
ยังไม่คิดเรื่องแคนดิตเดตนายกฯ
นางสาวแพทองธาร กล่าวด้วยว่า จริงๆเรื่องของนวัฒกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆเป็นเรื่องที่เราคุยกันอยู่แล้วในครอบครัว เราอยากส่งเสริมและเน้นตรงนี้จริงๆ ซึ่งเราเองไม่ได้ถนัดการเมือง ดังนั้น การเข้ามาตรงนี้โดยไม่ใช่นักการเมือง ตนคิดว่า รู้สึกสบายใจมากกว่า
เมื่อถามย้ำว่าถ้าในอนาคตถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค คิดว่าตนเองจะสามารถทำตรงนั้นได้หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “ยังค่ะ คิดว่าขอทำตรงนี้เพื่อดูตัวเองก่อนว่าเป็นอย่างไร และเสียงตอบรับของคนในพรรคด้วย ไปไหนเราก็ทำงานร่วมกันเป็นทีม”
เมื่อถามย้ำอีกว่า แปลว่าถ้าเสียงตอบรับในพรรคยินดี ก็แปลว่าสามารถทำได้ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “เดี๋ยวตอนนั้นให้พี่มาสัมภาษณ์อีกทีหนึ่ง”
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรถ้าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเป็นคือตัวเอง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า วันนี้เพิ่งมาใหม่ตรงนี้ อย่างไรก็ขอกำลังใจด้วย ถ้าทำงานผิดพลาดตรงไหนอย่างไรก็ขอให้แนะนำกันด้วย ทั้งนี้ คุณพ่อ คุณแม่ พี่ๆ สามี ลูก ให้กำลังใจเสมอ เราขอตั้งใจทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตรงนี้ให้ดีที่สุด
เลือก ‘หมอชลน่าน’ หัวหน้าพรรคคนใหม่
สำหรับการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยได้ลงมติเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จำนวน 23 คน ดังนี้
1.นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค 2.นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรค 3.นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค 4.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค 5.นายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค 6.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค 7.นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ รองเลขาธิการพรรค
8.นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ รองเลขาธิการพรรค 9.นางมนพร เจริญศรี รองเลขาธิการพรรค 10.นายคุณากร ปรีชาชนะชัย รองเลขาธิการพรรค 11.นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการพรรค 12.นายนพ ชีวานันท์ รองเลขาธิการพรรค 13.นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค 14.นางสาวอรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค
15.นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เหรัญญิกพรรค 16.นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนสมาชิกพรรค 17.นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค 18.นางสาวณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรค 19.นางสาวจิราพร สินธุไพร กรรมการบริหารพรรค 20.นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล กรรมการบริหารพรรค 21.นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหารพรรค 22.นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี กรรมการบริหารพรรค 23.นางสาวธีราภา ไพโรหกุล กรรมการบริหารพรรค
นพ.ชลน่าน เปิดเผยภายหลังรับตำแหน่งว่า วันนี้ประเทศชาติกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตโรคระบาด วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตศรัทธาประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนถูกคุกคาม สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากการไร้ประสิทธิภาพ ไร้วิสัยทัศน์ ขาดความเข้าใจในปัญหาของรัฐบาล ทำให้แก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ไม่เข้าไปอยู่ใจกลางของปัญหา แก้ปัญหาแบบขายผ้าเอาหน้ารอด โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายอันใหญ่หลวงที่จะติดตามมา ส่วนหนึ่งเพราะรัฐบาลนี้ขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ ขาดข้อมูลข้อเท็จจริงที่จะใช้ในการแก้ปัญหาจนเกิดความเสียหายซ้ำซาก
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่น เอาจุดแข็งของพวกเราคือองค์ความรู้ บวกกับความกระตือรือร้นและมันสมองอันเป็นเลิศของคนรุ่นใหม่ มารวมประสานกันเพื่อหาทางออกและแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยที่มีระบบเผด็จครอบงำปิดกั้นสมองและความคิดสร้างสรรค์ ไร้สิทธิเสรีภาพที่จะคิด ไร้อิสระที่จะแสดงความเห็น จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะทลายทลวง และระเบิดพลังสมองคนรุ่นใหม่ออกมาเพื่อเป็นประโยชน์ให้ประเทศชาติ
“เราจะไม่มีข้อสัญญา แต่เราจะทำงานทันที พรรคเพื่อไทยพร้อมเดินหน้าสานต่อภารกิจตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน ให้เป็นไปตามคำขวัญที่ว่า พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” นพ.ชลน่าน กล่าว
ตั้ง 15 กก.สรรหาผู้สมัคร ส.ส.
สำหรับคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค จำนวน 15 คน ประกอบด้วย 1.นายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค 2.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค 3.นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค 4.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค 5.นายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค 6.นางมนพร เจริญศรี รองเลขาธิการพรรค 7.นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค
8.นายสมัคร บุญปก หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 1 จังหวัดอุดรธานี 9.นายสุเทพ สายทอง หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่ 10.นายวิทวัส ดุลพินิจพัฒนา หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 4 จังหวัดภูเก็ต 11.นายพันศักดิ์ จันทร์ใบเล็ก หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 5 จังหวัดนนทบุรี 12.นายสัมพันธ์ แสงพรมชาลี ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดสกลนคร เขตเลือกตั้งที่ 2 13.นายประสิทธิ์ จันทาทอง ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดหนองคาย เขตเลือกตั้งที่ 2 14.นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดสุโขทัย เขตเลือกตั้งที่ 1 15.นายธนภพ กองโภค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขตเลือกตั้งที่ 2
เปิดตัว 'หมอเลี้ยบ' นั่ง ผอ.พรรค สานฝัน 'ไทยรักไทย-พลังประชาชน'
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พรรคได้มอบหมายให้ ส.ส.และผู้บริหารพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีบรรยายในหัวข้อหลากหลาย ภายใต้กรอบเดียวกันคือ 'พรุ่งนี้เพื่อไทย' ขณะที่ช่วงบ่ายมีวาระสำคัญที่ต้องจับตา คือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค และโหวตเลือกหน้าพรรคคนใหม่ ที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน จะถูกเสนอชื่อให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ แทนนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ
ขณะที่ก่อนการประชุม นายสมพงษ์ ไม่ขอให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่บอกสั้นๆว่า วันนี้เตรียมตัวเพื่อมาเซอร์ไพรส์ และขอให้จับตาในที่ประชุมที่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ การขับเคลื่อนของพรรคเพื่อไทย
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ว่าเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม เพราะจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของพรรคเพื่อไทย ส่วนรายชื่อที่ออกมานั้นให้รอดูในที่ประชุมเพราะจะมีการเสนอชื่อบุคคลต่างๆเข้ามาในตำแหน่งกรรมการบริหาร
ต่อมา นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ในฐานะผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทยคนใหม่ กล่าวในหัวข้อ 'พรุ่งนี้เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน' ระบุว่า ความฝันตลอดระยะเวลา 20 ปีบนเส้นทางการเมือง แต่ละคนมีความฝัน ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกัน และอาจมีใน 2 แบบ หนึ่งคือฝันเพื่ออนาคตตัวเอง สองคือฝันเพื่ออนาคตงดงามของเพื่อนมนุษย์ ซึ่งคนที่ฝันเพื่ออนาคตเพื่อนมนุษย์ที่รู้จักมาในชีวิตมี 2 คน คนแรก นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ที่มีความฝันจะสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้คนไทย ทุกวันนี้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาท เปลี่ยนชีวิตคนไทยไปกว่า 40 ล้านคน และส่งต่อความฝันให้คนทั้งโลกนับพันล้านคน และคนที่สอง คือ นายทักษิณ ชินวัตร ฝันอยากหยิบยื่นโอกาสชีวิตที่ดีให้คนอื่น เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีจึงไม่ใช่แค่ตาต้องดูดาว แต่เท้าต้องติดดิน กินคั่วแมงกุดจี่ และสองคนนี้ แม้ฝันจะต่างกันแต่สิ่งที่เหมือนกันคือ การฝันโดยใช้หัวใจ การใช้หัวใจสร้างความฝันย่อมเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนส่วนใหญ่ไปตลอดกาล
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า น่าเสียดายที่ความฝันที่เป็นจริงเมื่อ 20 ปีที่แล้วต้องสะดุดหยุดลงเพราะรัฐประหารปี 2549 และ 7 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยก็จมดิ่งสู่หลุมดำแห่งทุกข์ซ้ำเติมชีวิตคนไทย แต่ด้วยเพราะพรรคเพื่อไทยสืบทอดเจตนารมณ์ของพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน 1 ปีที่ผ่านมาจึงปรับเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยความเชื่อว่า ถ้าพรรคไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ก็ย่อมไม่สามารถไปซ่อมหรือสร้างเพื่อการเปลี่ยนแปลงพัฒนาประเทศไทย
“ความฝันจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ถ้าเราไม่มีรัฐบาลที่มาจากประชาชน รัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ดังนั้นเราทุกคนต้องช่วยกันผลักดันความฝันของเราที่เคยร่วมฝันกันไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้วอีกครั้ง ถามตัวเองว่า ยังมีความฝันอะไรที่เรายังไม่ได้ทำและมาเปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริงเพื่อประชาชน” นพ.สุรพงษ์ กล่าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage