ป่วยโควิดใหม่ 8,675 ราย อาการหนัก 2,437 ราย รวมสะสม 1.85 ล้านราย ตายอีก 44 ราย ศบค.เผยภาคใต้ติดเชื้อจากวงน้ำชา-น้ำท่อม ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ขณะที่ยอดหายป่วยเพิ่ม 9,589 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ 8,675 ราย ติดเชื้อในประเทศ 8,463 ราย มาจากระบบบริการ 7,931 ราย เกิดจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 532 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ 201 ราย และอีก 11 รายเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 1,859,157 ราย และมีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) จำนวน 3,924 ราย
หากจำแนกยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ตามพื้นที่ พบเป็นผู้ป่วยในจังหวัดกรุงเทพและปริมณฑล 1,467 ราย ผู้ป่วยใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ 1,896 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดอื่นๆ 5,100 ราย และป่วยในเรือนจำ 201 ราย
ขณะที่มีผู้หายป่วย 9,589 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสม 1,740,316 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 100,042 ราย โดยเป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ 2,437 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 536 ราย และมีผู้เสียชีวิต 44 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 18,799 ราย
โดยผู้เสียชีวิต 44 ราย มากสุดในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ รวม 14 ราย ทั้งหมดนี้เป็นผู้สูงอายุและกลุ่มโรคเรื้อรัง 95%
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับสูงสุด ประกอบด้วย กทม. 903 ราย ปัตตานี 618 ราย สงขลา 586 ราย นครศรีธรรมราช 582 ราย เชียงใหม่ 352 ราย นราธิวาส 352 ราย ยะลา 340 ราย ชลบุรี 295 ราย สมุทรปราการ 274 ราย และ ตรัง 248 ราย
นอกจากนั้น มีผู้ได้รับวัคซีนเพิ่ม 226,178 โดส เป็นเข็มแรกเพิ่ม 118,658 ราย เข็มที่ 2 เพิ่ม 96,366 ราย และเข็มที่ 3 เพิ่ม 11,154 ราย รวมสะสม 70,505,802 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 39,999,692 ราย คิดเป็น 55.5% ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 28,372,531 ราย คิดเป็น 39.4% และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 2,133,579 ราย คิดเป็น 3.0%
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 11 ราย แบ่งเป็น เดนมาร์ก 2 ราย รัสเซีย 3 ราย กัมพูชา 4 ราย มาเลเซีย 1 ราย และเมียนมา 1 ราย
โควิดภาคใต้ระบาดจากวงน้ำท่อม-น้ำชา
พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่าจะเห็นว่าใน 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด มีบางจังหวัดอยู่ในกลุ่ม 17 จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวคือ กทม. สมุทรปราการ นอกจากนี้ ยังพบการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะ กทม.และปริมณฑล จึงขอเรียนประชาชนว่าหากมีอาการทางเดินหายใจ เมื่อเดินทางไปโรงพยาบาลขอให้บอกข้อมูลให้ครบถ้วน เพราะหากบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 จะต้องกักตัวและเสียกำลังคน
ขณะเดียวกัน ยังพบคลัสเตอร์ใหม่ๆ ในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานและบริษัทเอกชนใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มแรงงานใน จ.แม่ฮ่องสอน อีกทั้งยังพบในชุมชนและตลาดในหลายจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ ลพบุรี เพชรบุรี ขณะที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้พบการติดเชื้อในวงน้ำชา ที่มีการล้อมวงดื่มน้ำชากันยามเช้า รวมถึงวงน้ำกระท่อม ที่มีการล้อมวงดื่มน้ำกระท่อมโดยใช้แก้วเดียวกัน
ผู้เสียชีวิตชายแดนใต้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีน
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในการประชุม ศบค.ส่วนหน้า ที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 พื้นที่ชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ได้เน้นย้ำการเสียชีวิตที่พบอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มโรคเรื้อรังกว่า 90% คือคนที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนไม่ครบ จึงตั้งเป้าระดมบุคลากรฉีดวัคซีนในพื้นที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การประชุมดังกล่าวยังเป็นการบูรณาการทำงานของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และตัวแทนศาสนา เพื่อดูแลประชาชนให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เขาเป็นอยู่ ในการป้องกันโควิด-19
ยันวางเงื่อนไขเปิดประเทศปลอดภัย
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนที่มีหลายคนตั้งคำถามว่ายังมีการติดเชื้อประเทศอยู่ แล้วเปิดประเทศจะมีความเสี่ยงหรือไม่นั้น รายชื่อประเทศ 45 ประเทศ และ 1 เขตปกครองพิเศษฮ่องกงที่เราจะได้ให้เดินทางเข้านั้น ต้องอยู่ที่พื้นที่ต้นทางด้วยว่าเขาอนุญาตให้ประชาชนของเขาออกนอกประเทศแล้วหรือยัง แต่ยืนยันเราวางเงื่อนไขทุกอย่างเพื่อปลอดภัย และระบบสาธารณสุขของเรารับได้ นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังมีการประเมินด้วยหลักเกณฑ์ด้านต่างๆ ว่าจะเปิดพื้นที่ได้หรือไม่ได้ ทั้งการฉีดวัคซีนครอบคลุมพื้นที่หรือไม่ อัตราการป่วยหนัก การเสียชีวิต และถ้าพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนก็จะมีมาตรการออกมารองรับ อย่าง จ.เพชรบูรณ์ที่มีการประกาศปิดภูทับเบิก เพื่อจำกัดวงไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปพื้นที่อื่นๆ ขณะเดียวกัน ในพื้นที่นำร่องจะต้องมีแผนเผชิญเหตุเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลง ซึ่งแต่ละจังหวัดสามารถเสนอแผนเผชิญเหตุเข้ามาได้
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนคำถามที่ว่า มาตรการ covid free setting ที่ผู้ให้บริการสามารถปฏิเสธผู้รับบริการที่ฉีดวัคซีนไม่ครบได้หรือไม่นั้น ขอย้ำว่ามาตรการนี้ไม่ใช่เป็นการบังคับ แต่เป็นการขอความร่วมมือขั้นสูงสุด เพื่อทำให้บุคลากร ลูกค้า และผู้ใช้บริการมีความปลอดภัย สำหรับมาตรการนี้มี 3 องค์ประกอบ คือ 1.ปรับสถานที่ เว้นระยะห่าง ปรับพื้นที่ให้ระบายอากาศได้ดี 2.สถานประกอบการ ที่ผ่านมาให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยม มีการจัดให้บุคลากรฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ จัดหาชุดตรวจ ATK เป็นระยะสม่ำเสมอ 3.ผู้รับบริการ หากทยอยทำได้มากขึ้น เร็วขึ้น จะทำให้เกิดความมั่นใจ แต่ย้ำว่าเมื่อเป็นวิถีใหม่ก็ต้องให้เวลา ประชาชนจะต้องใช้ความเข้าใจ ปรับตัว และยังยืดหยุ่นได้
เตือนบุญบั้งไฟ ห้ามรวมกลุ่มเกิน 500 คน
พญ.อภิสมัย กล่าวตอนท้ายว่า สำหรับตลอดทั้งเดือน ต.ค. จนถึงเดือน พ.ย. จะมีงานบุญกฐิน งานบุญบั้งไฟ ขอให้ทุกคนระมัดระวัง แต่ภาพข่าวที่ออกมาบางจังหวัดที่ยังห้ามรวมตัวเกิน 500 คน ปรากฏที่ดูแล้วเกิน 500 คน จึงขอให้หน่วยงานรัฐเข้าไปเข้มงวดมาตรการ ขอให้จังหวัดกำชับว่าเรายังไม่ผ่อนคลายขั้นสูงสุด คงต้องค่อยเป็นค่อยไป ขอให้ทุกคนยึดหลัก มาตรการป้องกันโควิด-19 แบบครอบจักรวาล ดูแลตัวเอง รวมถึงเฝ้าระวังคนใกล้ชิด
ทั่วโลกป่วยเพิ่ม 320,098 รวมสะสม 244.42 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 320,098 ราย รวม 244,426,712 ราย อาการหนัก 76,296 ราย หายป่วย 221,446,207 ราย เสียชีวิต 4,963,743 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 17,580 ราย รวม 46,312,782 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 157 ราย รวม 756,362 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 14,641 ราย รวม 34,189,484 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 442 ราย รวม 454,743 ราย บราซิล พบเพิ่ม 6,204 ราย รวม 21,729,763 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 113 ราย รวม 605,682 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก