ปลัด สธ.เผยสถานการณ์โควิดเดินทางมาถึงทางแยก ขอทุกฝ่ายร่วมมือควบคุมโรค ตั้งเป้าสิ้น ต.ค.ฉีดวัคซีนเข็ม 1 ถึง 61% หรือ 43 ล้านโดส ส่วนการระบาดในภาคใต้ คาดใช้เวลา 1 เดือนถึงจะดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2564 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย และ นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ร่วมกันแถลงสถานการณ์โควิดและมาตรการควบคุมป้องกันการระบาด Covid Free Setting และ Universal Prevention
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนในประเทศไทย สามารถฉีดไปแล้ว 57,387,052 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 33,774,684 โดส คิดเป็น 46.6% ของประชากร เข็มที่ 2 จำนวน 22,005,722 โดส คิดเป็น 30.5% ของประชากร เข็มที่ 3 จำนวน 1,606,646 โดส คิดเป็น 2.2% ของประชากร
สำหรับเป้าหมายการฉีดวัคซีน ตามที่คาดการณ์ถึงสิ้นเดือน ต.ค. เรายังมีวัคซีนค่อนข้างเพียงพอ โดยคาดว่าสิ้น ต.ค.จะฉีดเข็ม 1 ได้ 43 ล้านโดส คิดเป็น 61% ส่วนเข็ม 2 ได้ 26 ล้านโดส คิดเป็น 37% ส่วนสิ้น พ.ย.จะฉีดเข็ม 1 ได้ 75% และเข็ม 2 ได้ 55% หากทำได้ตามแผนนี้ สัดส่วนการฉีดวัคซีนนี้ก็อยู่ในระดับมาตรฐานโลก ซี่งเมื่อเดือนสิ้น ธ.ค.เราจะฉีดวัคซีนเข็ม 1 ได้ 85% และเข็ม 2 ได้ 70%
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เราอาจต้องเพิ่มมาตรการบางอย่างที่ต้องมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการล็อกดาวน์ เพื่อทำให้ผู้ติดเชื้อรายวันลดลง เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ผู้ติดเชื้อพุ่งสูงไปถึง 3 หมื่นรายต่อวัน ปัจจุบันเราเดินทางมาถึงทางแยกแล้ว โดยประสิทธิผลของการล็อกดาวน์น่าจะหมดแล้ว หากเราไม่ทำอะไรเลย เมื่อคลายล็อกดาวน์ จำนวนผู้ป่วยรายวันจะเพิ่มขึ้น แต่หากร่วมมือกันสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอมี 4 มาตรการ ก็จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ดังนี้
-
ฉีดวัคซีนให้ได้ตามแผน โดยสิ้นเดือน ต.ค.ต้องมีผู้ได้รับวัคซีนเข็ม 1 ได้ 60% และสิ้น พ.ย. 75%
-
มาตรการ Universal Prevention หรือ การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล เป็นเรื่องของค่านิยมที่ต้องช่วยกันปฏิบัติ ต้องคิดเสมอว่าผู้ใกล้ชิดของเรามีโอกาสแพร่เชื้อให้เราได้ ดังนั้นต้องป้องกันทุกคน โดยจากการสำรวจของกรมอนามัยพบว่า คนส่วนใหญ่ป้องกันตัวเองดีเวลาออกนอกบ้าน แต่ยังไม่ป้องกันตัวเองเวลาอยู่ในบ้าน ทำให้เกิดการติดเชื้อในครัวเรือน และอาจเป็นเหตุให้เกิดการระบาดใหญ่ต่อไปได้
-
ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ที่ต้องนำมาใช้ในองค์กร สถานพยาบาล รวมถึงประชาชนทั่วไป ช่วงแรกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้จัดซื้อมาแจกให้กับประชาชนที่มีความเสี่ยง เราพบว่า ประชาชนที่นำ ATK ไปตรวจหาเชื้อด้วยตัวเอง พบผลบวกประมาณ 1%
-
การรวมตัวของบุคคล เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายผ่อนคลายทำให้มีการเคลื่อนที่ของประชาชน บางทีก็ไปอยู่ในที่เดียวกันมากๆ เช่น ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ หรือการประชุมสัมมนา รวมถึงการละเล่นต่างๆ เมื่อเราผ่อนคลายแล้ว ก็อยากให้เป็นสถานที่ปลอดภัย กระทรวงสาธารณสุขจึงใช้มาตรการที่เรียกว่า Covid Free Setting ต้องทำให้สถานที่สะอาดและปลอดภัย ไม่ให้เกิดการแพร่หรือติดเชื้อ
นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สำหรับมาตรการ Universal Prevention คือ ซึ่งคือการระมัดระวังตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นบุคลากรแพทย์หรือประชาชนทั่วไป แม้ว่ายังไม่พบความเสี่ยงก็ตาม จากผลการสำรวจอนามัยโพลพบว่า ประชาชนทำตามมาตรการได้ 44.11% โดยมาตรการที่ทำได้น้อยที่สุดคือ การสวมหน้ากากเมื่ออยู่กับคนในบ้าน
นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึงการใช้ชุดตรวจ ATK ว่า การรายงานการตรวจเชิงรุก ข้อมูล ณ วันที่ 6 ต.ค.2564 ตรวจเชิงรุกแล้ว 96,535 ราย พบผลบวก 4,783 รายส่วนการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียน ดำเนินการแล้ว 74,500 ราย
สำหรับการระบาดของโควิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากจังหวัดยะลา สงขลา และปัตตานี เพื่อไปรับทราบสถานการณ์การระบาดของโควิด เราพบว่า ภาคใต้มีการระบาดทั้ง 3 สายพันธุ์คือเบต้า อัลฟ่า และเดลต้า โดยเตียงยังมีเพียงพอ นอกจากนี้จะส่งวัคซีนเข้าไปบริหารจัดการเพิ่มเติม คาดการณ์ว่าอีกประมาณ 1 เดือนสถานการณ์คงจะดีขึ้นมาก แต่ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาในการควบคุมโรค อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้ หัวหน้าผู้ตรวจราชการไปอยู่ในพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังและบัญชาการในเรื่องการป้องกันการระบาดอย่างเต็มที่
“ขณะนี้เราถึงทางแยก มีสองทางคือซ้ายหรือขวา ทำให้การติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่าที่เคยมี ตามพยากรณ์อาจถึง 3 หมื่นรายต่อวัน ส่วนอีกทางคือผู้ป่วยจะค่อยๆลดลงไปตามลำดับ ทุกคนก็อยากให้สถานการณ์ดีขึ้น อยากเชิญชวนประชาชนร่วมมือทำตามมาตรการทุกอย่าง หากเราคุมสถานการณ์ได้จนถึงสิ้นปี 2564 การบริหารจัดการวัคซีนก็จะดีมาก ต้นปี 2565 เราก็น่าจะมีความสุขมากขึ้นและอยู๋กับโควิดได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage