บริษัทเมอร์ค เผยผลการศึกษาเฟส 3 ยาเม็ดต้านโควิด ‘โมลนูพิราเวียร์’ ที่ใช้ในกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีอาการน้อย-ปานกลาง พบยาลดอัตราป่วยหนักและเสียชีวิตได้ 50%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2564 บริษัทเมอร์ค (MERCK) เผยผลการศึกษาระยะ 3 ของยาเม็ดต้านโควิด ยาโมลนูพิราเวียร์ ที่ใช้ในกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีอาการน้อยไปจนถึงระดับปานกลาง พบว่ายาโมลนูพิราเวียร์สามารถลดอัตราป่วยหนัก ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลและเสียชีวิตได้ 50%
โดยมี 28 ราย หรือคิดเป็น 7.3% ของผู้ที่ได้รับยาโมลนูพิราเวียร์ทั้งหมด 385 ราย ที่ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ขณะที่มี 53 ราย หรือคิดเป็น 14.1% ของผู้ที่ได้รับยาหลอกทั้งหมด 377 ราย ที่ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และในจำนวนดังกล่าวมี 8 ราย ที่เสียชีวิต
และจากข้อมูลประสิทธิภาพของยาโมลนูพิราเวียร์ แสดงให้เห็นอีกว่า มีประสิทธิภาพต้านโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลต้า แกมม่า และมิวได้
ส่วนอาการไม่พึงประสงค์ พบว่ามีอาสาสมัครที่ได้รับยาโมลนูพิราเวียร์เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยา 12% และมีเพียง 1.3% ที่ต้องหยุดการรักษา ขณะที่กลุ่มได้รับยาหลอก เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยา 11% แต่มีจำนวนอาสาสมัครที่ต้องหยุดการรักษา 3.4%
อย่างไรก็ตามด้วยผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นบวกเหล่านี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกาและคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลอิสระได้ให้หยุดการศึกษาก่อนกำหนด และบริษัทเมอร์คมีแผนที่จะยื่นคำร้องให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา อนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์นี้ในรักษาผู้ป่วยโควิดในกรณีฉุกเฉิน (Emergency Use Authorization: EUA) โดยเร็ว
ทั้งนี้บริษัทเมอร์คได้ลงนามในข้อตกลงการจัดหาและซื้อยาโมลนูพิราเวียร์กับรัฐบาลอื่นๆ ทั่วโลก โดยอยู่ระหว่างรออนุมัติด้านกฎระเบียบ และอยู่ระหว่างการหารือกับรัฐบาลอื่นๆ ขณะเดียวกันบริษัทเมอร์คมีความมุ่งมั่นที่จะให้การเข้าถึงยาโมลนูพิราเวียร์ เข้าถึงได้ทั่วโลกและทันเวลา ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ทำข้อตกลงแบบไม่ผูกขาดกับผู้ผลิตยาสามัญที่จัดตั้งขึ้น เพื่อเร่งให้ยาโมลนูพิราเวียร์พร้อมจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง เมื่อได้รับอนุมัติในกรณีฉุกเฉินจากหน่วยงานกำกับดูแลในท้องถิ่น
นอกจากนี้บริษัทเมอร์ค ยังเปิดเผยอีกว่าปัจจุบันมีการศึกษา MOVe-AHEAD ซึ่งเป็นการศึกษาระดับโลก กำลังประเมินประสิทธิภาพและความปลอดของยาโมลนูพิราเวียร์ในการป้องกันแพร่กระจายของโควิดภายในครัวเรือนด้วย
เรียบเรียงจาก:
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage