ผู้ว่าฯ กทม.ยันไม่เคยพูดว่าจะเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เผยต้องรอให้ฉีดวัคซีนเข็ม 2 ครบ 70% ค่อยหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง โดยจะเป็นคนกำหนดเอง ย้ำต้องปลอดภัยก่อน
------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุถึงกรณีที่มีข่าว กทม.จะเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไม่กักตัว ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ว่า ตนไม่เคยพูดว่าจะเปิดเมือง เพราะการเปิดเมืองจะต้องคำนึงถึงคนส่วนใหญ่ หากจะเปิดเมืองได้ การป้องกันเชื้อจะต้องดีกว่านี้ เพราะถ้าหากตัดสินใจเปิดแล้ว เกิดการระบาดระลอกใหม่ขึ้นมา จะยุ่งยากต่อการควบคุม
ดังนั้นเพื่อความสบายใจของประชาชนและความปลอดภัย จึงต้องการให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้ครบ 70% หรือมากกว่า 70% ขึ้นไป และต้องรอให้ผู้ฉีดมีภูมิคุ้มกันขึ้นจากการฉีดวัคซีนก่อนด้วย ค่อยมาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการเปิดเมืองอีกครั้ง โดยตนจะเป็นผู้กำหนดเอง
“ผมไม่เคยพูดว่าจะเปิด ยังไงก็ต้องคำนึงถึงคนส่วนใหญ่ อยากเปิดไหม ก็อยากเปิด แต่ต้องระวังเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วย เพื่อความสบายใจของพี่น้องประชาชน ต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 2 ให้ครบมากกว่า 70% ก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน ต้องให้คนกรุงเทพฯ ปลอดภัยก่อน”
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวด้วยว่า กทม.ตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ได้ 70% ของประชากร โดยตามไทม์ไลน์ปกติ 70% ของเข็ม 2 จะครบในวันที่ 22 ต.ค.นี้ แต่ในขณะนี้ได้ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งได้เลื่อนระยะเวลาในการเข้ารับวัคซีนเข็ม 2 เป็นเดือนครึ่งก็สามารถฉีดได้แล้ว
"ถ้าทาง สธ.ได้ดำเนินการจัดสรรวัคซีนมาให้ทาง กทม.ก็พร้อมฉีดได้เลย ซึ่งเป้าหมายจริงๆ คือ 70% แต่เราคุยกันภายใน กทม.เราอยากจะฉีดให้ครบ 100% ทุกคน แต่สำหรับ 70% นี้ กรณีที่ถ้าไม่มีวัคซีนมา ก็คาดการณ์ว่าจะครบในวันที่ 22 ต.ค. แต่หากมีการจัดสรรวัคซีนเข้ามาเร็วคาดการณ์ว่าประมาณวันที่ 10 ต.ค.นี้ ก็น่าจะครบทั้ง 70%"
ขณะเดียวกัน พ.ญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด(ศบค.) กล่าวถึงการเปิดกรุงเทพแซนด์บ็อกซ์ ขณะรายงานสถานการณ์โควิดประจำวันด้วยว่า ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้หารือร่วมกับ กทม. เสนอแผนจัดพื้นที่นำร่องเที่ยว 'กทม. แซนด์บ็อกซ์' โดยเป็นการรับทราบใน ศปก.ศบค.เท่านั้น ยังไม่สามารถสรุปเป็นมติได้ในวันนี้ เพราะการเสนอแผนต้องทำเป็นขั้นตอน ต้องมีการหารือร่วมกันในส่วนที่เกี่ยวข้อง และต้องเสนอผ่านกระทรวงสาธารณสุข ให้ตรวจสอบมาตรการอย่างรอบคอบ และรัดกุม เนื่องจาก กทม.เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ มีความหลากหลาย เมื่อผ่านการหารือร่วมกับ ศปก.ศบค.และกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาแล้วจะต้องนำเสนอให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาอนุมัติ
"การจัดทำพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวต้องทำเป็นขั้นตอนเดียวกัน ตามมาตรฐานในทุกพื้นที่ โดยต้องคำนึงถึงความพร้อมพื้นที่นั้น ๆ และต้องมีมาตรการควบคุมโรค หากว่ามีการรายงานผู้ติดเชื้อ หรือคลัสเตอร์ จะมีมาตรการรับมืออย่างไร ต้องมีการประเมินตนเองของพื้นที่ สาธารณสุขที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจะสามารถจัดทำเป็นพื้นที่นำร่องได้ อย่างเช่นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์"
ทั้งนี้ หากพบผู้ติดเชื้อก็ไม่ได้แปลว่าจะดำเนินการไม่ได้ แต่ระบบสาธารณสุขจะต้องมีความพร้อม เช่นเดียวกับภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ที่มีการใช้ทรัพยากรส่วนกลางในการรักษาและสอบสวนโรค ดังนั้นเมื่อจะทำแซนด์บ็อกซ์ที่ใดก็ตาม จะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ
ส่วนข้อสงสัยเมื่อพูดถึงการเปิดพื้นที่ กทม. ว่าจะมีการกักตัว 14 วันอยู่หรือไม่ พญ.อภิสมัย ยืนยันว่า มติในวันนี้ยังมีการกักตัว 14 วัน ใน Alternative Quarantine ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตอนนี้ แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบของโรงแรม SHA Plus แบบจังหวัดภูเก็ต เพราะบุคลากรส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว และเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวได้ ดังนั้นขอให้ติดตามมติ ศบค.ชุดใหญ่เรื่องของ กทม.แซนด์บ็อกซ์ และพื้นที่นำร่องจังหวัดอื่นๆ ต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage