รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ภูเก็ต แกะรอยอาชญากรทำลายป่าเหนือเขื่อนบางวาด-รุกวิทยาลัยเทคนิคถลาง-หาดเลพัง ชี้พื้นที่ถนนตัดเชื่อมตำบลวิชิต-กะทู้ จุดชมวิวเห็นภาพสวยงามสามอ่าวเหตุจูงใจการบุกรุกทำลายป่า ย้ำพนง.สอบสวนจะทำคดีเต็มที่ให้ถึงที่สุด
....................................
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 6 กันยายน 2564 พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน คดีพิเศษ ที่ 37/2564 พร้อมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุบุกรุกป่าเหนือเขื่อนบางวาด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขานาคเกิด ร่อยต่อ ต.กะทู้ อ.กะทู้ และ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อเก็บหลักฐานพยานวัตถุพยานทางด้านวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบร่องรอยการประกอบอาชญากรรมของกลุ่มอาชญากรที่บุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยการแผ้วถางป่าชั้นล่าง นำรถแบ็คโฮ ขุดทำลายต้นไม้และปรับพื้นที่เป็นถนน
พ.ต.ท.สุภัทธ์ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ต้องการมาดูพื้นที่จริงว่า สามารถที่จะขยายการสืบสวนสอบสวนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาในคดีบุกรุกทำลายป่าต้นน้ำสำคัญของจังหวัดภูเก็ตได้หรือไม่ และต้องการดูว่าจะพิจารณารับสำนวนการบุกรุกพื้นที่ตำบลวิชิตจาก สภ.วิชิต ที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปแจ้งความร้องทุกข์ในคดีการบุกรุกทำลายป่าและก่อสร้างเป็นถนนในตำบลวิชิตที่เชื่อมต่อกับถนนในพื้นที่ตำบลกะทู้หรือไม่ โดยได้เดินทางจากสันเขานาคเกิดลงมาตามความลาดชันของพื้นที่เพื่อเก็บร่องรอยการกระทำความผิดแล้ว
“จุดที่น่าสนใจของคดีคือพื้นที่ถนนที่ตัดมาเชื่อมกันระหว่างตำบลวิชิต และ ตำบลกะทู้ เป็นจุดชมวิวที่เห็นภาพสวยงามของอ่าวสามอ่าวซึ่งน่าจะเป็นจุดจูงใจอย่างหนึ่งในการบุกรุกทำลายป่าในครั้งนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องทำคดีอย่างเต็มที่และทำให้ถึงที่สุด”
จากนั้น พ.ต.ท.สุภัทธ์ ได้เดินทางไปพบผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคถลาง และรับมอบช่อดอกไม้ขอบคุณจากคณะบุคลากรและนักเรียนวิทยาลัยเทคนิคถลาง เป็นการให้กำลังใจในการช่วยเหลือวิทยาลัยเทคนิคถลางสืบสวนสอบสวนแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ที่ใช้เพื่อจัดการศึกษาและตรวจดูพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคถลางที่ถูกกลุ่มบุคคลและบุคคลบุกรุกพื้นที่โดยใช้เอกสาร ทป.4 โดยเชิญนายสรกฤษณ สิงห์คำ หัวหน้าศูนย์ประสานงานป่าไม้ จังหวัดภูเก็ต และ หัวหน้าสวนป่าบางขนูน มาชี้แจงรายละเอียด ความเป็นมาเป็นไปของเอกสาร ทป.4
โดยนายสรกฤษณ ยืนยันกับ พ.ต.ท.สุภัทธ์ ว่า กรมป่าไม้ได้อนุญาตให้วิทยาลัยเทคนิคถลาง ใช้พื้นที่ 142 ไร่ 1 งาน 17 ตารางวาถูกต้องตามขั้นตอนในปี 2540 และ ได้มีกลุ่มบุคคลเข้ามาสำรวจป่าในปี 2541-2542 ซึ่งถือว่าเป็นการบุกรุกที่ดินของวิทยาลัยเทคนิคถลาง และเอกสาร ทป.4 ที่ใช้ทำการสำรวจน่าจะไม่ชอบด้วยกฏหมายป่าไม้
ต่อมา พ.ต.ท.สุภัทธ์ และคณะได้เดินทางไปดูพื้นที่หาดเลพัง-หาดลายัน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นคดีพิเศษอีกคดีหนึ่ง ปรากฏว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการก่อสร้างเป็นโรงแรมแต่ปัจจุบันได้ปิดกิจการไปแล้ว
ขณะที่ พ.ต.ท.สุภัทธ์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่ห้องประชุมวิทยาลัยเทคนิคถลาง ว่า อยากจะเรียกร้องให้ชาวจังหวัดภูเก็ต ตั้งชมรมรักษ์ภูเก็ตเพื่อทำงานภาพรวมพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษพร้อมที่จะสนับสนุนเครื่องมือในการดำเนินงาน เพราะเท่าที่ดูแล้ว หลายพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ตมีปัญหา มูลค่าที่ดินสูง
"การเดินทางมาจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เนื่องจากได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้ลงมาดูพื้นที่ ประกอบกับการที่ตนเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีบุกรุกหาดเลพัง และบุกรุกเขานาคเกิด ซึ่งขอยืนยันอีกครั้งว่าจะทำคดีให้ดีที่สุดและทำให้ถึงที่สุด" พ.ต.ท.สุภัทธ์ระบุ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage