สธ.เผยแนวโน้มสถานการณ์โควิดในประเทศดีขึ้น ยอดเสียชีวิตลดลงต่ำกว่า 200 วันแรก ผ่านจุดสูงสุดของการติดเชื้อมาแล้ว ยันไทยยังไม่พบเชื้อสายพันธุ์ C.1.2 พร้อมเฝ้าระวังโดยสุ่มตรวจ สัปดาห์ละ 500 ตัวอย่าง
-----------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่่31 ส.ค.2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนการเสียชีวิตนั้น เป็นวันแรกที่จำนวนการเสียชีวิตต่ำกว่า 200 ราย ในรอบเดือน ส.ค. นับตั้งแต่มีการรายงานเสียชีวิตต่อวันที่มากกว่า 200 รายในช่วงที่ผ่านมา หากดูกราฟแสดงผลยอดผู้ติดเชื้อ จะพบว่าได้เลยจุดสูงสุดมาแล้ว
นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า พบการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์ C.1.2 ในหลายประเทศ รวมทั้งจีนและอังกฤษ หลังพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ ว่า โดยธรรมชาติของเชื้อไวรัสจะมีการกลายพันธุ์ และทุกประเทศได้เฝ้าระวังเป็นอย่างดี
ส่วนในไทยยังไม่มีการตรวจพบสายพันธุ์ C.1.2 ขอให้มั่นใจระบบเฝ้าระวังโดยกรมวิทยศาสตร์การแพทย์ที่มีการตรวจพันธุกรรมของสายพันธุ์ สัปดาห์ละ 500 ตัวอย่าง เมื่อทราบว่ามีการพบสายพันธุ์ใหม่จากประเทศใด จะตรวจหาในผู้ที่เดินทางจากประเทศดังกล่าว ร่วมกับการสุ่มตรวจทั่วประเทศ
นพ.เฉวตสรร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ สายพันธุ์ที่พบในไทยส่วนใหญ่เป็นเดลต้า 92-93% ในจำนวนตัวอย่างที่สุ่มตรวจ ส่วนสายพันธุ์ C.1.2 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจ ขณะที่ความรุนแรงของสายพันธุ์ดังกล่าว ยังเร็วเกินไปที่จะให้ข้อสังเกตว่ามีการแพร่ระบาดเร็วขึ้นหรือไม่ ความรุนแรงของโรคมากขึ้นหรือไม่ ดื้อต่อการรักษาและดื้อต่อวัคซีนหรือไม่ อยู่ระหว่างการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์และระบบสาธารณสุขทั่วโลก
นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงการผ่อนคลายเปิดกิจการบางประเภทในวันที่ 1 ก.ย.นี้ ว่า เป็นการผ่อนคลายมาตรการผ่อนปรนบางกิจการและกิจกรรม แต่ยังอยู่ในกลุ่มการแบ่งโซนพื้นที่จังหวัดตามการแพร่ระบาดคงเดิม ดังนั้นการผ่อนปรนต่างๆ ยังคงดำเนินภายใต้มาตรการควบคุมโรค ทั้งด้านส่วนบุคคลและสถานที่ ส่วนกรณีที่กิจการหรือกิจกรรมใดที่ผู้เข้าร่วมหรือพนักงานยังดำเนินการฉีดวัคซีนไม่ครบ และจะต้องแสดงหลักฐานการยืนยันการตรวจหาเชื้อหรือรับวัคซีนนั้น เป็นแนวทางที่กำลังพิจารณาหาข้อสรุปอยู่ ฉะนั้นกิจการที่ได้รับอนุญาตยังคงเปิดได้
“พรุ่งนี้เป็นวันแรกของการปรับมาตรการ ผ่อนปรนให้เปิดกิจกรรมบางประเภท ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารสามารถเปิดให้บริการนั่งกินภายในร้าน ในส่วนของผู้ประกอบการ แม้ว่าลูกจะยังฉีดวัคซีนไม่ครบ และไม่ได้ตรวจหาเชื้อด้วย ชุด ATK ทุกๆ 7 วัน ก็สามารเปิดดำเนินการได้ สำหรับลูกค้าก็ยังไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน โดยพื้นฐานสำคัญคือมาตรการป้องกันส่วนบุคคล การรักษาความสะอาด การจัดสิ่งแวดล้อมให้อากาศระบายถ่ายเทได้ เป็นมาตรการสำคัญ” นพ.เฉวตสรรกล่าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage