ร้อง 'อิศรา' ช่วยสอบปมขึ้นบัญชีดำ บ.สหภัณฑ์ อิเลคทริคฯ คู่สัญญา ขายหม้อแปลง 119 ล้าน ล่าช้า เผย กฟน. ทำหนังสือแจ้งเวียนให้เป็นผู้ทิ้งงาน ผ่านมาปีเศษกรมบัญชีกลางยังไม่ดำเนินการอะไร ด้านอธิบดีฯ แจงเรื่องเข้าสู่กระบวนการแล้ว แต่ติดขัดปัญหาฟ้องร้องคดีระหว่างบริษัทกับกฟน. เผยปัจจุบันมีเรื่องทิ้งงานค้างสะสมนับพัน เหตุขาดแคลนกำลังคน กำลังรีบเข้าไปสะสางหาทางแก้ไขอยู่
....................................
การประกาศแจ้งเวียนรายชื่อ บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด และกรรมการผู้จัดการ คู่สัญญาซื้อขายหม้อแปลง วงเงินกว่า 119 ล้านบาท กับ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ให้เป็นผู้ทิ้งงานตามขั้นตอนของกรมบัญชีกลาง ถูกร้องเรียนว่า มีปัญหาความล่าช้า ระยะเวลาผ่านมา 1 ปีเศษ ปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ เกิดขึ้น
โดยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการร้องเรียนจากแหล่งข่าวใน กฟน. ว่า ในช่วงเดือนเมษายน 2563 ผู้บริหาร กฟน. ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมบัญชีกลาง เพื่อแจ้งชื่อให้ บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด และนายประภาส จันทรรังษี กรรมการผู้จัดการ เป็นผู้ทิ้งงาน ตามสัญญาซื้อขายหม้อแปลง ชนิดคอนเวนชันนัล 3 เฟส 4 สาย 24 กิโลโวลต์ 500 กิโลโวลต์แอมแปร์ จำนวน 201 ชุด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 119,997,000 บาท เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา ตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน 2563
แต่จนถึงปัจจุบัน กรมบัญชีกลาง ยังไม่ได้มีการออกประกาศแจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานหน่วยงานรัฐแต่อย่างใด (ดูหนังสือประกอบ)
ด้าน นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง ให้สัมภาษณ์ชี้แจงสำนักข่าวอิศราว่า กรณีนี้ได้มีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา มติที่ประชุมเห็นว่า บริษัทฯ ฟ้องร้อง กฟน. ต่อศาลปกครองกลางอยู่ ต่อมาผู้ฟ้องคดีถอนคำฟ้อง ที่ประชุมจึงมอบให้ฝ่ายเลขาฯ สอบถามเพิ่มเติมว่ามีการฟ้องต่อศาลแพ่งหรือไม่ และให้นำเสนอเรื่องที่ประชุมในคราวต่อไป
"เรื่องทิ้งงานของ กฟน. ผมได้สั่งการให้ดำเนินการด่วนผ่านอนุกรรมการแล้ว รอเรื่องเข้าคณะกรรมการทิ้งงานอีกครั้งจะดำเนินการให้เสร็จเร็วที่สุด ส่วนเรื่องทิ้งงานอื่นที่ค้างอยู่ทั้งหมดจะเร่งเอาคนไปช่วยเพื่อให้เรื่องค้างหมดไปเร็วที่สุดเช่นเดียวกัน" นายประภาศกล่าว
@ ประภาศ คงเอียด
นายประภาศ กล่าวต่อว่า "เรื่องทิ้งงานปัญหามีค้างอยู่เยอะมาก เพราะมีข้อจำกัดเรื่องกำลังคน งานของกองพัสดุที่ทำอยู่จะเร่งเรื่องที่กฎหมายกำหนดระยะเวลาให้เสร็จก่อน คือ เรื่องอุทธรณ์ ซึ่งก็มีเยอะมากและต้องทำทันที เพราะระยะเวลาจำกัดตามที่กฎหมายกำหนดคือ 40 วัน ส่วนเรื่องทิ้งงานไม่มีระยะเวลาตามกฎหมายจึงทำให้ค้าง เพราะต้องเร่งเรื่องอุทธรณ์ก่อน และเรื่องอุทธรณ์ก็จะเข้ามาเยอะต่อเนื่องและต้องเร่งให้ออกเร็ว เป็นผลทำให้เรื่องทิ้งงานค้างอยู่ ซึ่งผมจะเข้าไปแก้ไขและเร่งให้รีบออกมาโดยเร็วที่สุด"
"ปัญหาเรื่องทิ้งงานค้าง ปัจจุบันมีเป็นพันเรื่อง สะสมมานานแล้ว ผมต้องเข้ามาสะสาง แต่ไม่ย่อท้อมันเป็นหน้าที่ และที่สำคัญถ้าช้าจะทำให้คนทิ้งงานยังไปรับงานกับภาครัฐได้ เท่ากับไปสนับสนุนและให้โอกาสคนไม่สุจริต" อธิบดีกรมบัญชีกลางระบุ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage