'หมอนิธิ' แสดงความเห็นส่วนตัว ค้านแนวทางฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้บุคลากรแพทย์ ขณะที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีน
----------------------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2564 เวลา 21.16 น. นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nithi Mahanonda ว่า ด้วยความเคารพและเห็นใจความกลัวการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว จนมีประกาศกันว่าจะให้บุคลากรด่านหน้าได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลังจากได้วัคซีนไปครบแล้วสองโดส ตนขอให้ข้อคิดว่า
1.ต้องไม่ลืมว่าคนที่ได้รับวัคซีนครบแล้วไม่ว่าชนิดใดยังมีโอกาสติดเชื้อ ได้ช่วงนี้มีรายงานว่าแพทย์พยาบาลติดเชื้อกันมากนั้นเป็นเพราะพวกเราด่านหน้าเสี่ยงได้รับเชื้อกว่าคนทั่วไปอยู่แล้วแม้แต่จะมีอุปกรณ์ป้องกันเต็มที่อย่างดีแต่ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันทั้งโลก การที่พวกเรา (แพทย์) ตระหนกจะทำให้คนทั่วไปตื่นเต้นไปยิ่งกว่า
2.เรา (แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า และทุกคนที่แม้แต่คิด) ดูเห็นแก่ตัวไปหรือไม่ ในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่ได้วัคซีนสักเข็มเดียว ถ้าเราจะมารับการกระตุ้นด้วยเข็มที่สามกันก่อน
3.ยังไม่มีประเทศไหนในโลก ณ เวลานี้ที่แนะนำให้ฉีดกระตุ้นวัคซีนโควิดด้วยเข็มสามในตอนนี้ จะเป็นเมื่อไหร่ 3 เดือน 6 เดือน แต่ทั้งนี้ถ้าอยากรู้ก่อน อยากทำก่อนก็ทำได้ แต่ควรทำเป็นการศึกษาให้เป็นระบบไม่ควรทำแบบ ทำไปมั่วๆ เหมือนที่ผ่านมา ไม่เก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ไม่วางแผนให้เป็นระบบประเทศไทยก็จะไม่มีข้อมูลอีกเช่นเคยเหมือนในอดีต ตนไม่แน่ใจจริงๆ ว่า ทำเช่นนี้เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรกับวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับ (บริจาค แลก ซื้อ) จำนวนพิเศษนี้หรือไม่ ไม่รู้จริงๆ พยายามช่วยหาเหตุผลอธิบายว่านโยบายการให้ฉีดกระตุ้นในบุคลากรการแพทย์นี้มีเหตุมีผลลึกๆอะไร
4.หลายแสนโดสที่จะได้รับบริจาคให้พวกเราส่วนหน้ามากระตุ้นภูมิถ้าจะฉีดให้คนไทยที่ยังไม่เคยได้วัคซีนได้ สามแสนห้าหมื่นคน จะสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ สามสี่พันคน ทีเดียว ดีกว่าไปหาทางเพิ่มเตียงไหมครับ
(ข่าวประกอบ : เคาะฉีดวัคซีนเข็ม 3 นำร่องกลุ่มแพทย์ที่รับ'ซิโนแวค'ครบ 2 โดส)
5.ทำเช่นนี้ (ออกข่าวประชาสัมพันธ์ว่าแพทย์ใช้การกระตุ้นภูมิเข็มสาม) เท่ากับสร้างกระแสความเชื่อให้คนมีเงิน (ขี้อวด และขี้กลัว) แห่กันไม่ฉีดวัคซีนหลักที่มีขณะนี้ของรัฐบาลอยู่แต่รอไปเสี่ยงติดเชื้อไปและแพร่เชื้อด้วยไปอีกหลายๆเดือนเพื่อ รอ mRNA vaccine ทางเลือก และนอกจากนี้จะมีคนวีไอพี (ที่คนละประเภทกับ VIP ตน) ที่ไม่มีเงิน (แต่มีเครือข่ายมีสายมีเส้น) แห่กันไปลัดคิวแย่งคิววัคซีนหลักเพื่อกระตุ้นภูมิของคนที่ยังไม่ได้วัคซีนสักเข็มเดียว สังคมเราจะยิ่งมีความเหลื่อมล้ำไปกันใหญ่หรือไม่ ถ้าประเทศเรามีวัคซีนเกินพอ ตนเห็นด้วย 100% กับนโยบายนี้
6.ตนไม่แย้งไม่เถียงว่ามีข้อมูลทางการแพทย์มากมายที่ทำให้อาจคิดและอาจทำให้เชื่อต่อได้ว่าการได้รับวัคซีนกระตุ้นนั้นจะทำให้ป้องกันสายพันธุ์ใหม่ได้ดีขึ้น แต่รู้ได้อย่างไรว่ากระตุ้นเร็วหรือช้าในเวลานี้จะให้ผลเสียมากหรือน้อยกว่ากันอย่าคิดแค่มุมที่ดีมากหรือน้อยกว่ากัน อย่าหลงตามกันไป จะตอบคำถามนี้ได้ต้องวิจัยและศึกษาให้เป็นระบบ อย่าสักแต่ว่า เชื่อ ฟัง และ ได้ยินเขาว่า ต่อๆกันมา
7.ตนพูดมาตลอดว่าการระบาดของโรคใดๆ นั้น เป็นเรื่องของสังคมศาสตร์มากกว่าวิทยาศาสตร์ วัคซีนไม่ใช่คำตอบเดียว ถ้าทำตามแนวทางและประชาสัมพันธ์ส่งเสริมที่จะให้เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็มที่สาม ณ เวลานี้มีแต่จะทำให้เกิดความสับสน และแตกแยก เหลื่อมล้ำในสังคมมากขึ้นอย่างแท้
ตนไม่รู้ความตั้งใจของที่มาของการบริจาคมีเจตนาอย่างไรเล็งเห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่การตลาดบริษัทยา ปกติตนไม่ค่อยชอบค้านอะไรตรงๆ แบบนี้ แต่คราวนี้ขอผิดกติกาตัวเอง สงสารคนไทยอีกหลาย 10 ล้านคนที่ยังไม่ได้วัคซีน ตนขอค้านไม่เห็นด้วยในการให้ฉีดกระตุ้นเข็มสามในเวลานี้ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีน ถ้าใครจะได้รับการกระตุ้นเข็มที่สามควรต้องอยู่ในการศึกษาวิจัยที่เป็นระบบเท่านั้น ไม่เช่นนั้น ท่านเห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกเกินไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.นิธิ ได้เขียนข้อความทิ้งท้ายด้วยว่า วันนี้ความเห็นส่วนตัวไม่ขอลงตำแหน่ง แค่แพทย์คนหนึ่งที่ไม่ขอเห็นแก่ตัว
ต่อมาวันที่ 7 ก.ค.2564 เวลา 10.14 น. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กอีกว่า มีหมอ พยาบาลไม่พอใจคำว่า เห็นแก่ตัว ต้องกราบขอโทษ ไม่มีเจตนาดูแคลนใคร
ขอใช้คำว่า ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ที่ทุกคนคุ้นเคยกันแทน ทั้งนี้อีกวัตถุประสงค์ที่โพสต์ไปคืออยากเตือนพวกเราว่า วัคซีนที่รอหวัง อีกนานกว่าจะมา ระหว่างนี้ป้องกันตัวเองเต็มที่ด้วย มีสติ อย่าประมาท
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/